ธนาคารที่ รับไถ่ถอน ขายฝาก เป็นยังไง
ธนาคารที่ รับไถ่ถอน ขายฝาก จำนอง เป็นยังไงจำนำ เป็นอย่างไรจำนำ คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนองเอาทรัพย์สินตราไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับจำนำ เป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง ก็เลยพูดได้ว่า จำนองเป็นการเอาเงินมารับรองการใช้หนี้สำหรับการจำนองก็เลยควรมีหนี้สินที่จำนองเป็น ประกัน ส่วนข้อตกลงจำนองเป็นการเอาเงินทองมาเป็นประกันการใช้หนี้ที่จำนำเป็นประกันดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การจำนองจึงมี หนี้สินที่จำนำเป็นประกันอันนับได้ว่าเป็นส่วนประธาน กับข้อตกลงจำนองอันถือว่า เป็นส่วนอุปกรณ์ ฉะนั้น การจำนำขึ้นอยู่กับหนี้ ถ้าเกิดหนี้สินหยุดสิ้นไป การจำนองก็ย่อมยับยั้งสิ้นไปด้วยเงินทองอะไรซึ่งสามารถจำนำได้
ทรัพยัสินที่จำนำได้ อาทิเช่น อสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสังหาริมทรัพย์บางสิ่งบางอย่างจากที่ระบุไว้ใน เปรียญพ.พ. มาตรา ๗๐๓ แต่ว่าสินทรัพย์ที่จดทะเบียนจำนองต่อข้าราชการตามประมวลกฎหมายที่ดินจะต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพียงแค่นั้น (ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๗๑) ซึ่งอาทิเช่น ที่ดินและสินทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินมีลักษณะเป็นการ ถาวร
หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้น แล้วก็หมายความรวมถึงทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับที่ดินหรือสินทรัพย์ ที่ติดอยู่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเกี่ยวกับที่ดินนั้นด้วย (ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๙) ส่วนสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้อง ไปลงบัญชีต่อเจ้าหน้าที่อื่นจากที่กฎหมายกำหนดไว้เอกสารสิทธิ์ที่ดินใด จำนำได้ที่ดินที่จำนำได้ ยกตัวอย่างเช่น
ที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแล้ว อันดังเช่นว่า มีโฉนดที่ดินและก็ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นางสาว๓, น.ส.๓ กรัม, นางสาว๓ ข. แบบลำดับที่ ๓ หากออกก่อนใช้ประมวล ข้อบังคับที่ดินจะต้องแจ้ง ส.ค. ๑)บุคคลใดสามารถจำนำได้คนที่จะจำนำได้ควรจะเป็นผู้ครอบครองเงินในเวลาที่จำนองแค่นั้น (ป.พ.พ. มาตรา ๗๐๕) รวมทั้ง
จะต้องเป็นเจ้าของในขณะจำนอง ก็แค่มีสิทธิเป็นเจ้าของในภายหน้าจะจำนำมิได้ ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างเช่า ซื้อ ไม่บางทีอาจเอาเงินทองที่เช่าซื้อมาจำนองได้ชนิดการเขียนทะเบียนประเภทการจดทะเบียนมีใช้ทั้งยัง “จำนำ” และก็ “ จำนองเป็นประกัน” ไม่ว่าจะใช้อย่างไรมี ความหมายสิ่งเดียวกัน แต่สำหรับธนาคาร รวมทั้งสหกรณ์ หรือส่วนราชการ เป็นผู้รับจำนอง ได้ปฏิบัติเป็น ประเพณีว่า ใช้จำพวก “จำนองเป็นประกัน” นอกจากนี้ใช้จำพวก “จำนอง” ประเภทการจดทะเบียนได้แบ่งได้หลาย
หมวดด้วยกัน ในที่นี้จะขอเอ๋ยถึงชนิดที่ราษฎร ได้เห็นกันเป็นส่วนมากดังนี้
ธนาคารที่ รับไถ่ถอน ขายฝาก
1.จำนอง คือ การจดทะเบียนจำนองที่ดินทั้งแปลงหรือสิ่งปลูกสร้างทั้งยังหลังหรือที่ดินทั้งแปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ไม่ว่าที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างมีเจ้าของคนเดียวหรือหลายคนผู้ที่เป็นเจ้าของทุกคนนั้น จำนองพร้อมกัน
2.จำนองเฉพาะส่วน หมายถึง การจำนำอสังหาริมทรัพย์ที่มีเจ้าของรวมกันคนไม่ใช่น้อยโดยผู้เป็น ผู้ครอบครองคนหนึ่งหรือหลายคนไม่ใช่เจ้าของทั้งผอง จำนำเฉพาะส่วนของตัวเอง ส่วนของคนที่เป็นเจ้าของผู้อื่น ไม่ได้จำนำด้วย จำนำเฉพาะส่วน ผู้จำนองสามารถจำนองได้โดยไม่ต้องให้ผู้ครอบครองร่วมคนอื่นๆที่ไม่ได้จำนำด้วย ยินยอมหรือให้ถ้อยคำอะไร
3.ปรับเงินเพิ่มขึ้นจากจำนอง หมายถึง ในกรณีที่มีการลงทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันหนี้สิน ไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ต่อมาคู่ความตกลงเพิ่มเงินที่จำนองเป็นประกันให้สูงขึ้นจากเดิม จึงมาจดทะเบียน เพิ่มวงเงินที่จำนำ โดยมีเงื่อนไขและข้อตกลงเหมือนกันกับข้อตกลงจำนองเดิม ทั้งที่ยังไม่ตายมูลหนี้เดียวกันกับ
คำสัญญาจำนองเดิม (หากหนี้ต่างรายกันปรับเงินขึ้นจากจำนำไม่ได้ จำเป็นจะต้องจำนำอีกอันดับต้นๆ) ในการปรับเงินเพิ่มขึ้นจากจำนำ ถ้ามีการคิดดอกเบี้ยในวงเงินที่เพิ่มขึ้นต่างไปจากข้อตกลงจำนำเดิมก็ ทำได้ การปรับเงินให้เพิ่มขึ้นจากจำนำจะขึ้นกี่ครั้งก็ได้ โดยเจาะจงปริมาณครั้งห้อยท้ายชนิด ดังเช่นว่า “ ปรับเงินให้เพิ่มขึ้นจาก จำนำครั้งอันดับหนึ่ง” เป็นต้น
4.ไถ่ถอนจากจำนำ หมายถึง กรณีที่ได้จ่ายและชำระหนี้ที่จำนำเป็นประกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว การจำนำ จึงยับยั้งสิ้นไปโดยผลของกฎหมาย หากแม้ไม่ลงบัญชีก็สามารถใช้บังคับในระหว่างกันได้เอง แม้กระนั้นถ้าจะให้ ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกได้ จะต้องลงทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สำหรับจำพวกการจดทะเบียนอื่นๆสามารถศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกถึงที่เหมาะ เว็บไซต์กรมที่ดิน
แนวทางบังคับจำนำ
ผู้รับจำนำจะต้องมีจดหมายบอกไปยังลูกหนี้ว่าให้ชำระหนี้ภายในช่วงระยะเวลาอันควร ซึ่งปกติจะใช้เวลาโดยประมาณ 30 วัน ถ้าเกิดลูกหนี้ไม่ใช้หนี้คืนข้างในกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับจำนำจะใช้สิทธิบังคับจำนอง หากถึงเวลานัดหมายแล้วลูกหนี้ไม่นำเงินมาชำระ ผู้รับจำนองจำต้องฟ้องผู้จำนองต่อศาล เพื่อลูกหนี้ปฏิบัติการใช้หนี้ใช้สิน ถ้าเกิดไม่ชำระหนี้ ก็ขอให้ศาลสั่งให้นำเอาทรัพย์ที่จำนองนั้นออกขายขายทอดตลาดนำเงินมาจ่ายหนี้ของตัวเอง
หรือขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สมบัติที่จำนองนั้นหลุดเป็นบาปสิทธิของตนแม้เข้าข้อจำกัดที่ข้อบังคับกำหนดไว้จะมองเห็นได้ว่าข้อบังคับบังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าการบังคับจำนำจำเป็นจะต้องฟ้องต่อศาลเสมอจะนำเอาที่ดินออกขายขายทอดตลาดเองไม่ได้ และก็ควรมีการออกจดหมายทวงหนี้ไปถึงลูกหนี้ก่อนเสมอจะฟ้องร้องโดยไม่มีการแจ้งทวงหนี้ก่อนมิได้การบังคับจำนำนี้จะไม่คำนึงเลยว่าในขณะที่มีการบังคับจำนำนั้น สินทรัพย์ที่เชลยอยู่ในความครอบครองของคนใดกันแน่
หรือลูกหนี้ได้โอนบาปสิทธิไปยังผู้อื่นกี่ทอดรวมทั้งตาม สิทธิจำนองย่อมติดตามตัวทรัพย์สินที่จำนำไปด้วยเสมอ แม้ว่าจะเป็นการโอนทางมรดกก็ตามสิทธิจำนำก็ติดตามไปด้วยดังเช่น นาย A ได้จำนำที่ดินแปลงหนึ่งไว้กับนาย B เป็นเงิน 5 แสนบาท ต่อมานาย A ได้เสียชีวิตลงโดยยกมรดกที่ดินดังที่กล่าวผ่านมาแล้วไปให้นาย D ลูกชายของตัวเอง การตายของนาย A ไม่ได้ทำให้สิทธิของการเป็นเจ้าหนี้ของนาย B หมดไป นาย B มีสิทธิบังคับจำนำที่ดินแปลงดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้แม้ว่าจะเป็นชื่อของนาย D
และตามหนี้ที่หมดอายุความไปแล้วจะมีผลเสียถึงการจำนองหรือเปล่าถึงแม้หนี้สินที่เป็นประกันนั้นจะขาดอายุความแล้วหลังจากนั้นก็ตาม ผู้รับจำนำก็ยังมีสิทธิที่จะบังคับจำนำเอาสินทรัพย์ที่จำนองได้ ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยไม่มีผลกระทบถึงสิทธิของผู้รับจำนำในเงินทองที่จำนำแต่อย่างใด แต่ว่าจะบังคับดอกเบี้ยที่ติดสำหรับในการจำนำเกินกว่า 5 ปีไม่ได้อาทิเช่น นาย A ได้นำที่ดินไปจำนำไว้กับนาย B เป็นเงิน 5 แสนบาทกำหนดใช้คืนในวันที่ 1 มิถุนายน 2520
เมื่อถึงกำหนดชำระแล้ว นาย B ก็มิได้ติดตามทวงหนี้จากนาย A เลยจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2537 ก็เลยได้บังคับจำนองซึ่งหนี้เงินกู้ยืมนั้นจำต้องฟ้องข้างใน 10 ปีนับแต่วันที่ถึงเวลาซึ่งกรณีหนี้เงินกู้เกินกำหนดความไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนานแล้วนาย A จะต่อสู้ว่าหนี้เงินกู้ได้เกินอายุความไปแล้วโดยเหตุนี้ตัวเองก็เลยไม่ต้องยอมรับผิดตามสัญญาจำนำ
เรื่องนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ครับ เนื่องจากถึงแม้หนี้เงินกู้จะเกินอายุความก็ตามแต่สิทธิจำนองยังอยู่ไม่ได้หมดไปตามอายุความครับ ด้วยเหตุดังกล่าวนาย B ก็เลยมีสิทธิบังคับจำนองที่ดินดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ money lone แต่นาย B จะบังคับในส่วนดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปีมิได้ด้วยเหตุผลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าการจำนำเป็นหลักประกันการจ่ายหนี้อย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี้ถ้าเจ้าหนี้ตั้งใจที่กำลังจะได้รับจ่ายหนี้คืนแล้ว เจ้าหนี้จึงต้องควรให้ลูกหนี้นำเงินทองมาจำนำเป็นประกันการจ่ายหนี้ด้วยการใช้หนี้จำนำการจ่ายหนี้จำนองทั้งผองหรือแค่บางส่วน การหยุดหนี้จำนองไม่ว่าในกรณีใดๆการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงสำหรับเพื่อการจำนำก กฎหมายบังคับให้ไปขึ้นทะเบียนต่อพนักงานข้าราชการเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นแล้วจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้เช่น นาย A ได้จำนำที่ดินของตัวเองไว้กับนาย B ถัดมานาย B ยอมปลดจำนองที่ดินดังที่ได้กล่าวมาแล้วให้แก่นายเอกแต่ทั้งสองฝ่ายมิได้ไปจดทะเบียนการปลดจำนองต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่ต่อมานาย B โอนการจำนองให้นาย E โดยจดทะเบียนถูก แล้วนาย E ได้บังคับจำนองที่ดินแปลงนี้ นาย A จะยกข้อต่อสู้ว่านาย B ปลดจำนองให้แก่ตัวเองแล้วขึ้นต่อสู้กับนาย E ไม่ได้
จํานองคือ
การจำนองนั้นเป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน ยิ่งในสภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยจะมีความเห็นว่ามีผู้นำเอาอสังหาริมทรัพย์ไปจำนำมากมาย และมีใครอีกหลายๆคนไม่อาจไถ่ถอนคืนมามาได้ จะต้องเสียอสังหาริมทรัพย์นั้นอย่างน่าเสียดายความหมายของการจำนำการจำนำหมายถึงการที่บุคคลคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้จำนอง” เอาอสังหาริมทรัพย์ของตนเอง ตัวอย่างเช่นที่ดิน หรือสมบัติพัสถานที่ข้อบังคับอนุญาตให้จำนำได้ไปลงทะเบียนไว้กับบุคคลอีกคนหนึ่ง
เรียกว่า“ผู้รับจำนำ”เพื่อเป็นประกันการใช้หนี้ ทั้งนี้โดยผู้จำนองไม่ต้องส่งที่ดินหรือเงินดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง (ป.พ.พ.มาตรา 702)ตัวอย่าง นาย ก. ได้กู้ยืมจากนาย ข. เป็นจำนวน 1 แสนบาท โดยนาย ก. ได้นำที่ดินของตนปริมาณ 1 แปลงไปจดทะเบียนจำนองต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่
เพื่อเป็นการประกันการจ่ายและชำระหนี้เงินกู้ยืมจำนวน 1 แสนบาท ที่นาย กรัม ได้กู้ไปจากาย ข. โดยนาย ก. ยังคงมีสิทธิถือครองรวมทั้งใช้สอยที่ดินของตัวเองได้ตามธรรมดาการจำนองเพื่อการรับรองการจ่ายหนี้แก่ผู้รับจำนองนั้นแบ่งได้ 2 กรณีเป็น
1.การจำนองสินทรัพย์ของตนเองเพื่อการประกันการใช้หนี้ของตัวเองแบบอย่าง นาย กรัม ได้กู้เงินจากนาย ข. 1 แสนบาท โดยนาย กรัม นำที่ดินซึ่งเป็นของตัวเองไปลงทะเบียนจำนำต่อพนักงานข้าราชการเพื่อเป็นการประกันการจ่ายหนี้เงินกู้ยืมของนาย ก. เอง
2.การจำนองเพื่อเป็นประกันการจ่ายและชำระหนี้ของบุคคลอื่นตัวอย่าง นาย ก. ได้กู้หนี้ยืมสินจากนาย ข. 1 แสนบาท โดยนาย ค. ได้นำที่ดินของตัวเองไปเขียนทะเบียนจำนองต่อพนักงานข้าราชการเพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้นาย กรัมได้กู้ไปจากนาย ข.เงินที่ใช้เพื่อสำหรับในการจำนำได้แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆกล่าวอีกนัยหนึ่ง
1. อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้นว่า ที่ดิน บ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างทุกหมวดหมู่อันติดอยู่กับที่ดินนั้น
2. สังหาริมทรัพย์ที่จำนองได้ คือ
2.1 เรือกำปั่น หรือเรือที่มีระวางตั้งแต่6 ตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป
2.2 แพ
2.3 สัตว์พาหนะ
2.4 สังหาริมทรัพย์อื่นๆซึ่งข้อบังคับได้ข้อบังคับให้จดทะเบียนจำนำได้ ได้แก่ เครื่องจักรขนาดใหญ่ ฯลฯ