เมล็ดฟินเลย์ เมนูอาหารเพื่อสุขภาพรายการอาหารแรกๆที่ระลึกถึงเป็น รายการอาหารสลัด ที่สามารถเลือกทานผักได้มากมาย หลายคนถูกใจทานสลัดเป็นอาหารเช้าหรือเย็น นอกเหนือจากสลัดมีคุณประโยชน์ทางโภชนาการสูงแล้ว ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย แม้กระนั้นนอกเหนือจากการที่จะเป็นเพียงแค่สลัดปกติในสลัด 1 จาน ยังสามารถใส่อะไรลงไปได้อีกหลายชนิด ทั้งยังผักสารพัดสารพัน ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ขนมปังกรอบ เมล็ดพืช น้ำสลัดสูตรต่างๆผู้ประกอบธุรกิจห้องอาหารสามารถครีเอทรายการอาหารสลัดของร้านค้าให้ไม่เหมือนกันอีกทั้งสีสัน เค้าหน้า รส
หรือสามารถเปลี่ยนรูปร่างสลัดไปเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่น สลัดโรล สลัดในขวดแก้ว หรือการแบ่งสลัดเป็น Portion เล็กๆและก็จัดเสิร์ฟรวมกันหลายรส ซึ่งล้วนสร้างความไม่เหมือน สร้างจุดแข็งให้กับรายการอาหารสุขภาพของร้านค้าเพิ่มราคาต่อจานให้สามารถอัพราติดอยู่ได้สลัดผัก นับว่าเป็นรายการอาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยมแบบสุดๆทั้งยังหาทานได้ง่าย อร่อย และก็ให้คุณประโยชน์เยอะแยะ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเป็นนักทานผัก บางทีก็อาจจะยังไม่ทราบกับผักกาดหอม หรือผัก Lettuce ดีเพียงพอ ฉันรูเรื่องผักอย่าง Urban Farming จะพาไปทำความรู้จักกับ 10 ผัก Lettuce ยอดนิยมว่ามีอะไรบ้าง แต่ละประเภทมีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง เพื่อคุณเลือกทานได้ประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยมนะครับ
เมล็ดฟินเลย์ ผักสลัดสุดฮิต
รูปแบบของลำต้นในระยะต้นชอบไม่เห็น เนื่องจากใบมักปกคลุมไว้ แม้กระนั้นจะเห็นได้ชัดเมื่อถึงระยะแทงช่อดอก ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อสั้น โดยแต่ละข้อจะเป็นที่เกิดของใบ รูปแบบของลำต้นจะค่อนข้างจะเจ้าเนื้ออ้ ไมโครกรีน (Microgreen)หมายถึงต้นกล้าหรือต้นอ่อนของพืช ผัก สมุนไพรประเภทต่างๆกระทำเพาะเม็ดรวมทั้งเติบโตจนถึงมีใบจริง 2-3 ใบ ขนาดความสูง ของต้นกล้าซึ่งสามารถกินได้โดยประมาณ 2-4 นิ้ว มีคุณค่าทางสารอาหารมากยิ่งกว่าผักชนิดเดียวันที่โตเต็มกำลังแล้ว 3-10 เท่า สุดแต่จำพวกของผัก มีทรงแล้วก็สีสันสวยสดงดงามน่ากิน แก่การเจริญเติบโตที่สั้น ใช้เวลาเพียงแต่ 7-10 วัน ก็สามารถเอามากิน หรือเก็บขายสร้างรายได้ได้แล้วก็ที่สำคัญใช้แค่น้ำไม่ก็สามารถเติบโตได้แล้ว
ปลูกไมโครกรีนง่ายดายมากๆ นอกเหนือจากการที่จะมีประโยชน์สูงแล้ว ไมโครกรีนยังปลูกได้ง่าย ใช้พื้นที่สำหรับทำการเพาะปลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นปลูกที่โล่งแจ้ง ในโรงเรือนที่ปิด บ้าน คอนโด ขอบระเบียงหรือแม้กระทั้งขอบหน้าต่าง แถมช่วงเวลาเพาะปลูกไม่นาน เพียงแค่โดยประมาณ 1-3 อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวเห็นผลผลิตแล้ว ไมโครกรีนสามารถปลูกได้อีกทั้งแบบใช้ดินและก็ไม่มีดิน (Hydroponic) โดยอาศัยแสงสว่างช่วยสำหรับการเจริญวัย แล้วก็ที่สำคัญการปลูกไมโครกรีนไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่มีอันตรายทั้งคนปลูกรวมทั้งคนกิ
: การกินไมโครกรีน หรือต้นอ่อนทั่วๆไปนั้นไม่เป็นอันตราย เมล็ดฟินเลย์ เเต่บางทีอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อของกินเป็นพิษได้เป็นต้นว่า ถ้าเกิดมีการแปดเปื้อนเชื้อเเบคครั้งเรียในไมโครกรีน ปกติเเล้วเเบคครั้งเรียสามารถเติบโตได้ในไมโครกรีนน้อยกว่าในต้นกล้า สำหรับไมโครกรีนอยากได้สภาพภูมิอากาศที่อบอุ่น เเละมีความชื่นน้อยกว่าต้นกล้าน้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้าหากว่าพวกเราอยากได้ปลูกไมโครกรีนที่บ้านนั้น จะต้องเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ไม่มีการปนเปื้นของเชื้อเเบคหนเรียที่มีอันตราย ตัวอย่างเช่น ซาโมเนลลา รวมทั้งเชื้อ อีโคไล ฯลฯสำหรับดินที่นิยมประยุกต์ใช้ปลูกไมโครกรีนสูงที่สุดหมายถึงพีทมอส (Peat) เพอร์ไลท์ เเละเวอร์ไมคูไลท์ ที่เหมาะกับใช้ปลูกครั้งเดียว แล้วก็จัดว่าสะอาดมากมายๆ
ตอนนี้ไมโครกรีนเริ่มเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งกำเนิดเป็นธุรกิจจัดจำหน่ายไมโครกรีนและก็ชุดเพาะปลูกล้นหลาม อย่าง แบรนด์ Dr.Sprouts & Microgreens ที่ปลูกไมโครกรีนในโรงเรือนระบบปิดแบบไม่ใช้ดิน ที่มีการควบคุมอุณหภูมิความชุ่มชื้น การหมุนเวียนอากาศ ควบคุมจำนวนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งใช้แสงสว่างเทียมจากหลอดไฟฟ้า แอลอีดี สำหรับในการเพาะปลูก ซึ่งจะช่วยลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการแปดเปื้อนจากดินแล้วก็สภาพแวดล้อม คุ้มครองโรคที่มีต้นเหตุมากจากแมลง
ยิ่งไปกว่านี้ยังเพาะปลูกผักไมโครกรีนในแนวดิ่ง ถือว่าเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างมีคุณภาพและก็เอื้อต่อการสร้างไมโครกรีนในจำนวนมากๆอีกด้วยเดี๋ยวนี้ความนิยมไมโครกรีนกำลังเยอะขึ้นเรื่อยด้วยสีสันที่สวยสดงดงาม เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย และก็รสที่เข้มข้น ก็เลยเป็นที่ชื่นชอบเอามากินแบบใหม่ๆมากยิ่งกว่านำไปผ่านขั้นตอนแต่ง เป็นต้นว่า ใส่ด้านในสลัด แซนด์วิช ทานกับน้ำพริก หรือจัดแต่งจานอาหาร ซึ่งคนไม่ใช่น้อยบางครั้งอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำๆนี้ แม้กระนั้นสำหรับฝูงคนหวานใจสุขภาพอยู่แล้วหรือสายคลีนมักจะรู้จักคำๆนี้อย่างดีเยี่ยม ไมโครกรีนเป็นยังไง? มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเช่นไร? จาปินมีข้อมูลประเด็นนี้มาบอกให้รู้กันจ้ะ
ไมโครกรีน (Microgreens)เป็นต้นกล้าขนาดเล็กหรือต้นอ่อนของผัก สมุนไพร
หรือเมล็ดพืชจำพวกต่างๆซึ่งกระทำการเพาะเม็ดแล้วก็เติบโตจนกระทั่งมีใบจริง 2-3 ใบ ความสูงโดยประมาณ 2-4 นิ้ว มีลักษณะทรงและก็สีสันงามน่ากินสุดแท้แต่ละประเภทของผักนั้นๆมีกลิ่นหอมยวนใจ มีสารอาหารมากมาย แล้วก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้นยิ่งกว่าผักที่โตสุดกำลัง โดยใช้เวลาสำหรับการเพาะปลูกเพียงแค่ 7-10 วันก็สามารถเอามากินได้แล้ว ในต้นอ่อนจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นจะต้องต่อการเติบโตของพืช เมื่อเอามากินก็เลยมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากยิ่งกว่าผักทั่วๆไปที่เติบโตสุดกำลังแล้ว ซึ่งสารอาหารจะลดน้อยลงตามช่วงเวลาที่ใช้สำหรับการเพาะปลูก ฉะนั้น ไมโครกรีนก็เลยเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่ถูกใจกินผัก ถ้าหากเพิ่มไมโครกรีนในของกินก็จะยิ่งได้รับสารอาหารเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ณัฐชัย ดงษ์ดีที่สุด เมล็ดฟินเลย์ คุณครูประจำภาควิชาทรัพยากรชีวภาพรวมทั้งเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าจังหวัดธนบุรี (มจธนาคาร) บางขุนเทียน ได้กล่าวไว้ว่า แนวโน้มการบริโภคผักกำลังแปรไป จากเดิมที่เคยกินผักต้นโตเต็มวัย แม้กระนั้นปัจจุบันนี้คนเริ่มหันมาบริโภคไมโครกรีน หรือต้นอ่อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องกินผักในจำนวนมาก การบริโภคไมโครกรีนในของกินแค่เพียงนิดหน่อยก็จะได้รับค่าของสารอาหารในจำนวนที่มากกว่าการบริโภคผักที่โตสุดกำลังปกติ ก็เลยเหมาะกับผู้รู้สึกชื่นชอบการกินผักทุกเพศทุกวัย
ไมโครกรีนมีหลากหลายประเภท หลายกลิ่น รวมทั้งหลายรส พวกเราสามารถปลูกหรือเพาะไมโครกรีนได้จากเมล็ดพืชหลายแบบ สำหรับชนิดยอดนิยมสูงที่สุดหมายถึงไมโครกรีนหรือต้นอ่อน ดังนี้ ไมโครกรีนกรุ๊ปกะหล่ำดอก โบคอยกวัวลี กะหล่ำปลี ไมโครกรีนกรุ๊ปผักกาดหอม ไมโครกรีนกรุ๊ปผักชีฝรั่ง แครอท ขึ้นฉ่าย โมโครกรีนกลุ่มกระเทียม ต้นหอม และก็หัวหอม ไมโครกรีนกรุ๊ปหัวผักกาด ผักขม ไมโครกรีนกรุ๊ปแตงร้าน แตงโม ไมโครกรีนกรุ๊ปของเมล็ดพืชต่างๆอย่างเช่น ข้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ถั่วชิกพี ถั่วค้าง สำหรับไมโครกรีนในประเทศไทยที่นิยมนำมาปลูกรับประทานแล้วก็จัดจำหน่ายเป็นต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนผักบุ้ง ต้นอ่อนอัลฟัลฟ่า ต้นอ่อนโต้วเหมี่ยว (ถั่วลันเตา) อื่นๆอีกมากมาย แม้กระนั้นไมโครกรีนเเต่ละประเภทมีความเเตกแตกต่างอีกทั้งในด้านโภชนาการ
ผักไมโครกรีนเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย คนที่ถูกใจรับประทานผักอยู่แล้ว betflix1150 เพิ่มไมโครกรีนในของกินก็จะยิ่งได้รับสารอาหารเยอะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคนที่เกลียดชังรับประทานผักอีกทั้งคนแก่แล้วก็เด็กๆเพียงแค่ใส่ไมโครกรีนในของกินเพียงแค่เล็กๆน้อยๆก็สามารถได้รับสารอาหารมากมายพอๆกับรับประทานผักทั่วๆไปจานใหญ่ๆได้แล้ว ผักจิ๋ว ไมโครกรีน (Microgreens) กำลังได้รับความนิยมมากมายในช่วงเวลานี้ ด้วยความงดงามของสีสัน เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย และก็สารอาหารที่มีคุณค่ามากมายก่ายกอง ดังนี้ มีการศึกษาค้นคว้าพืชต้นอ่อน อย่าง กะหล่ำปลีแดง ผักชี
รวมทั้งหัวผักกาดแดง พบว่า ต้นอ่อนกลุ่มนี้มีสารอาหารหลักๆมากยิ่งกว่าพืชที่โตแล้วหลายเท่าทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ต้นอ่อนของกะหล่ำปลีแดง มีวิตามินอีมากยิ่งกว่ากะหล่ำที่โตเต็มกำลังแล้วถึง 40 เท่า สร้างความฉงนให้กับนักค้นคว้า กระทั่งจำต้องกลับไปเช็คแล้วเช็คอีกอยู่หลายรอบ ยิ่งกว่านั้นยังมีวิตามินซีมากยิ่งกว่า 6 เท่า ส่วนต้นอ่อนของผักชี มีเบต้า-แคโรทีน มากยิ่งกว่าผักชีที่โตแล้ว 3 เท่า พวกเราบางทีอาจเรียกรวมต้นกล้าของผักที่เอามารับประทานว่า ‘ต้นอ่อน’ แม้กระนั้นในความเป็นจริงแล้วในแวดวงของกินแบ่งชนิดของต้นกล้าออกเป็น 3 แบบตามอายุตอนเก็บเกี่ยวแล้วก็ประเภทของพืชที่เอามาเพาะเลี้ยงหมายถึงผักผลิออก ต้นอ่อน รวมทั้งไมโครกรีน เริ่มจาก ‘ผักแตกออก’
เป็นต้นอ่อนที่แตกหน่อขึ้นจากเม็ดถั่ว ไม่ว่าจะถั่วเขียวที่เปลี่ยนเป็นถั่วงอก ถั่วแดง ถั่วดำ หรือถั่วดินก็นิยมเอามาเพาะรับประทานด้วยเหมือนกัน โดยระยะเก็บเกี่ยวของผักแตกหน่อจะอยู่ระหว่าง 2-7 วันสุดแท้แต่ประเภทของถั่วที่เอามาเพาะ ส่วน ‘ต้นอ่อน’ (Sprouts) เป็นต้นกล้าของผักจำพวกต่างๆที่เอามาเพาะราว 7-10 วันแล้วถึงเก็บกิน ประเภทที่พวกเรารู้จักกันดีก็ตัวอย่างเช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนหัวผักกาด (ไควาเระ) หรือต้นอ่อนถั่วลันเตา (โต้วเหมี่ยว)ผักจิ๋วไมโครกรีน (Microgreen) เป็นผักอีกตัวนึงที่เป็นที่กลุ่มของผู้คนรักสุขภาพนิยมกินกันในพักหลังมานี้ ด้วยเหตุว่าเป็นผักที่มีสีหลากหลายและยังสวยงาม เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย กินง่าย รวมทั้งผักบางตัวยังมีคุณค่าทางสารอาหารมากยิ่งกว่าผักประเภทเดียวกันที่โตสุดกำลังแล้ว 5-40 เท่าอีกด้วย
ผักจิ๋วไมโครกรีน (Microgreen) เป็นผักอีกตัวนึงที่เป็นที่ฝูงชนรักสุขภาพนิยมกินกันในระยะหลังมานี้ เมล็ดฟินเลย์ เพราะเหตุว่าเป็นผักที่มีสีหลากหลายและยังสวยงาม เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย กินง่าย รวมทั้งผักบางตัวยังมีคุณค่าทางสารอาหารมากยิ่งกว่าผักประเภทเดียวกันที่โตเต็มกำลังแล้ว 5-40 เท่าอีกด้วย ภายหลังปลูกฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก จนถึงฯลฯกล้าแล้ว ให้ย้ายปลูกภายในกระถาง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ ให้ใช้ดินร่วนซุยผสมปุ๋ยหมัก กาบมะพร้าวสับ เถ้าถ่านแกลบ หรือ แกลบดำ เพื่อมีความร่วนซุย แล้วเพิ่มสารอาหาร โดยการรดจุลอินทรีย์สังเคราะห์ด้วยแสง คลุกเคล้าจนเข้ากัน พอเพียงย้ายต้นกล้าลงไปเสร็จแล้ว ก็นำไปวางเอาไว้ในที่โล่งแจ้ง ให้โดนแดดวันละ 6 – 8 ชั่วโมง หมั่นรดน้ำให้เปียก แล้วฉีดพ่นฮอร์โมนนม เพื่อบำรุงใบเป็นระยะ ก็จะได้ ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก ใบใหญ่งดงาม พร้อมเก็บกิน เก็บขายได้แล้ว