นิยาย Y

นิยาย Y เป็นนิยายที่นักแสดงหลักมีเพศสภาพเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ชายรักชาย หญิงรักหญิง ในที่นี้เรากำลังจะพูดถึงนิยายชายรักชาย หรือที่นิยมเรียกกันว่า Yaoi หรือ BL (Boy love) ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมในหมู่คนอ่านหลายชิ้น

นิยาย Y จากการยึดครอบครองพื้นที่บนชั้นที่เอาไว้สำหรับ นิยาย Yเพื่อวางของร้านจำหน่ายหนังสือแบบเชนสโตร์นิยาย หรือ นวนิยาย นับว่าเป็นความรื่นเริงใจในอีกแบบ หนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ร้อยเรียงจินตนาการผ่านผู้แสดง ซึ่งในขณะนี้มีนิยายในอีกแนวหนึ่งได้รับความพอใจมากพอสมควร เรียกกันว่า นิยายวาย ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นยุคนี้ออกจะที่จะนิยม แต่ว่าก็ไม่ทุกคนเป็นเฉพาะกรุ๊ปที่ถูกใจเพียงแค่นั้นแต่ว่าคนสมัยก่อนอายุ 40 อัพอาจจะไม่เคยอ่านนิยายแนวนี้ หรือถ้าเคยผ่านตาบนโลกอินเตอร์เน็ต รวมถึงการนำเสนอในต้นแบบความสนุกสนานผ่านละคร หรือ ซีรีส์ ก็บางครั้งอาจจะรู้สึกว่ามันมีเนื้อหาไม่เหมาะสม เพราะในนิยายวายที่นิยมในบ้านเราจะเป็นแถว ชายรักชาย

1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ มีความทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์มากกว่า คือการรักใครสักคน แม้กระนั้นไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และก็จำเป็นต้องมาเสียใจวันหลัง
2. พระผู้เป็นเจ้าบางทีอาจจะอยากที่จะให้พวกเราพบผู้ที่ไม่ใช่..ก่อนจะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาพวกเราเจอคนคนนั้นแล้ว เราจะได้ทราบสึกประทับใจถึงพรที่ท่าน ประทานมา
3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังหวังดีใครบางคนอยู่ แม้จะแยกความ รู้สึก ความคลั่งไคล้ รวมทั้งความข้องเกี่ยวแบบรักใคร่ออกไปแล้ว
4. สิ่งที่น่าเศร้าใจในชีวิต คือการพบผู้ที่มีความหมายเป็นอย่างมากส่วนตัวสำหรับเรา แม้กระนั้นมาศึกษาค้นพบตอนหลังว่าพวกเราไม่ได้ถูกระบุมาเพื่อสิ่งนั้น แล้วก็จะต้องปล่อยให้พ้นไป
5. เมื่อประตูที่ความสบายปิดลงประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่ดูประตูที่ปิดลงไปแล้วนานมากจนกว่าเรามองไม่เห็นประตูที่เปิดไว้คอย
6. เพื่อนฝูงที่ดีเยี่ยมที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ขอบระเบียงร่วมกันโดยไม่บอกอะไรกันสักคำ แม้กระนั้นสามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกัน อย่างติดใจที่สุด
7. เป็นความจริงที่เราไม่อาจจะรู้เลยว่าพวกเรามีอะไรอยู่จวบจนกระทั่งพวกเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นเดียวกันที่พวกเราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกว่าสิ่งนั้นเข้ามาหาพวกเรา
8. การมอบความรักทั้งปวงให้ใครบางคนมิได้เป็นประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่ว่าจงคอยให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แม้กระนั้นถ้าหากมันไม่เป็นเช่นนั้น ให้พึงพอใจว่าอย่างต่ำมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของพวกเราเอง
9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แม้กระนั้นคุณจะมิได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าประพฤติตนเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
10. อย่าบอกลาหากคุณยังต้องการจะบากบั่นต่อไป อย่าท้อใจถ้าหากคุณยังคิดว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว หากคุณไม่สามารถที่จะทำใจ
11. ความรักมักมาเยี่ยมผู้ที่ยังคงหวัง แม้กระทั่งผิดหวัง และมาเยี่ยมผู้ที่ยังคงเชื่อ ต่อให้ถูกทรยศหักหลัง และก็จะมาเยี่ยมผู้ที่ยังคงรัก แม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
12. การที่เราจะชื่นชอบคนไหนกันแน่นั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบคนใดใช้เวลาเพียงแต่ชั่วโมง การที่พวกเราจะรักผู้ใดกันใช้เวลาเพียงเลวทรามวัน แม้กระนั้นการที่จะลืมคนใดกันนั้นจำต้องใช้เวลาตลอดชาติ
13. อย่ามองดูผู้ใดกันแน่จากใบหน้า ด้วยเหตุว่ามันอาจหลอกเราได้ อย่าดูคนไหนกันแน่จากความมั่งมี เพราะเหตุว่ามันไม่จีรังยืนยง ให้มองหาคนที่ทำให้ท่านยิ้มได้ เพราะว่าเพียงแค่ยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่ซึมเซากลับแจ่มใส ขอให้คุณเจอคนที่ทำให้ท่านยิ้มได้
14. มีขณะในชีวิตที่คุณคิดถึงใครบางคนจนกว่าต้องการดึงเขา อ่านนิยาย  มาจากความฝันเพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น
15. ฝันถึงสิ่งที่คุณอยากฝันไปในที่ที่คุณอยากไปเป็นในสิ่งที่คุณปรารถนาเป็น เพราะว่าคุณมีเพียงแค่ชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ
16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนโยน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้ท่านแข็งแกร่ง มีความเศร้าโศกพอที่จะก่อให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และก็มีความหวังมากพอที่จะทำให้ท่านสุขสบาย
17. เอาใจใส่คนอื่นๆเหมือนกับเอาใจใส่ตัวเอง หากคุณคิดว่าสิ่งนั้นจะมีผลให้คุณเจ็บ รู้ไว้เถิดว่าคนอื่นๆก็เจ็บจากสิ่งเดียวกันเช่นเดียวกัน
18. คำพูดที่มิได้ยั้งคิดอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง คำกล่าวที่ชั่วร้ายบางทีอาจทำลายชีวิต คำกล่าวที่เหมาะสมกาละเทศะบางทีอาจลดความเคร่งเครียด คำรักบางทีอาจแก้ไขและก็ทำให้มีสุข
19. จุดเริ่มต้นของความรักเป็นการปลดปล่อยให้คนที่เรารักเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเรา ที่ปรากฎในพวกเขา
20. ผู้ที่สุขสบายที่สุดไม่ได้มีความหมายว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด ก็แค่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้เหมาะสมที่สุดได้ต่างหาก
21. ความสุขรออยู่ตรงหน้าคนที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่ เพียรพยายามแล้ว เพราะเหตุว่ามีเพียงแต่พวกเขาแค่นั้นที่รู้จักค่า-ของคนเราที่ได้สัมผัสชีวิต
22. ความรักเริ่มด้วยรอยยิ้ม เจริญงอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบเปื้อนน้ำตา
23. อนาคตที่สดใสมีพื้นฐานอยู่บนอดีตที่แสนเจ็บปวด คุณไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตต่อไปได้ดี หากว่าไม่รู้ปล่อยวางข้อผิดพลาดในสมัยก่อน และความปวดหัวใจ
24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดตอนที่คนที่อยู่รอบข้างกำลังยิ้ม ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนตาย คุณจะเป็นผู้ที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้ท่าน
25. ความรักก็ดังการเสี่ยง คุณอาจจำเป็นต้องพบกับความไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ถ้าเกิดคุณไม่เสี่ยง คุณก็บางทีก็อาจจะจำเป็นต้องพบกับความไม่ประสบผลสำเร็จตลอดกาล
26. ความรัก มักเหมือนแก้วบาง ถ้าหากว่าคุณมือหนัก แก้วที่คุณถือ ก็บางทีอาจจะจำต้องบาดหมางทุกครั้งที่คุณใช้มัน
27. ความรัก ง่ายที่เราจะหามัน แต่ยากที่จะรักษาเอาไว้ให้ดำรงอยู่ตลอดไป
28. ความรัก เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นๆที่จะรักษามันไว้กับใจ ถ้าคนทั้งคู่

คำศัพท์น่ารู้ฉบับสาววาย Y บัณฑิตสมัยนี้วงการวายของพวกเราก้าวล้ำไปไกลจนถึงเกิดศัพท์เฉพาะในวงการเยอะมาก แต่ว่าสาวที่เพิ่งผันตัวเข้าสู่วงการไม่จำเป็น

ที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจค่ะ เพราะว่าวันนี้ธัญวงกลมสะสมศัพท์ทั้งหลายที่คุณควรรู้เมื่อข้าวงการวาย(อย่างกะแวดวงสำราญใจ) มาลงให้อ่านกันเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ว่าสาววายรุ่นเก๋ากึกก็อ่านได้นะคะ

BLเมื่อเป็นบทความของมั่งมีวงกลมจะไม่กล่าวถึงสัญลักษณ์นี้อาจมิได้ BL เป็นอักษรย่อมาจากคำว่า Boys’ Love ซึ่งหลายๆคนคงจะเดาความหมายได้ว่าเป็น ความรักของเด็กผู้ชาย หรือก็คือ ‘ชายรักชาย’ นั่นเอง แม้กระนั้นคำนี้ต่างกับคำว่า Yaoi อย่างไร?ถ้าเกิดจะให้ชี้แจงเป็น BL เป็นหัวข้อใหญ่ ซึ่งรวมทั้ง ความรักระหว่างเพศชายกับเพศชายซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็น Yaoi แล้วก็ Shonenai ความไม่เหมือนระหว่างสองคำนี้เป็น

Yaoi จะเป็นชายรักชายที่เน้นเนื้อหาไปที่ความสัมพันธ์ทางเพศ
Shonenai คำนี้มาจาก Shonen = เด็กชาย บวกกับ Ai = รัก เป็นความรักของชายรักชายที่เน้นย้ำรายละเอียดที่การพัฒนาอารมณ์ความรัก โรแมนติก รวมทั้งสุภาพ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ของเราก้าวล้ำไปไกลกระทั่งเกิดศัพท์เฉพาะในแวดวงล้นหลาม นิยายจีน แม้กระนั้นสาวที่พึ่งผันตัวเข้าสู่วงการไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจจ้ะ เนื่องจากวันนี้ร่ำรวยวงกลมสะสมคำศัพท์ทั้งหลายแหล่ที่คุณควรรู้เมื่อข้าวงการวาย(อย่างกะแวดวงสนุกสนาน) มาลงให้อ่านกันเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้กระนั้นสาววายรุ่นเก๋ากึกก็อ่านได้นะคะ

BLเมื่อเป็นบทความของร่ำรวยวงกลมจะไม่กล่าวถึงสัญลักษณ์นี้อาจจะมิได้ BL เป็นอักษรย่อมาจากคำว่า Boys’ Love ซึ่งผู้คนจำนวนมากน่าจะทายใจความหมายได้ว่าเป็น ความรักของเด็กชาย หรือก็คือ ‘ชายรักชาย’ นั่นเอง แต่คำนี้ต่างกับคำว่า Yaoi เช่นไร?ถ้าหากจะให้อธิบายคือ BL เป็นหัวข้อใหญ่ ซึ่งรวมทั้ง ความรักระหว่างผู้ชายกับเพศชายซึ่งสามารถแบ่งแยกย่อยได้เป็น Yaoi แล้วก็ Shonenai ไม่เหมือนกันระหว่างสองคำนี้คือ

นิยาย y

Yaoi จะเป็นชายรักชายที่ย้ำเนื้อหาไปที่ความเชื่อมโยงทางเพศ

Shonenai คำนี้มาจาก Shonen = เด็กผู้ชาย บวกกับ Ai = รัก เป็นความรักของชายรักชายที่เน้นย้ำเนื้อหาที่การพัฒนาอารมณ์ความรัก โรแมนติก และก็สุภาพ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปนิยายวายเป็นอย่างไร?นิยายวาย (Y)หมายถึงนิยายที่มีการสร้างเค้าโครงเรื่อง ผู้แสดง เป็นนิยายขนาดยาวเสมือนนิยายทั่วๆไป แต่ข้อแตกต่างของ “นิยายวาย”หมายถึงการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกที่เป็นเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแถวหญิงรักหญิงหรือชายรักชาย ซึ่งถ้าหากเป็นหญิงรักหญิงจะเรียกว่าแนวยูริ แต่ถ้าเป็นเพศชายจะเป็นยะโออิ (Yaoi) ซึ่งในวันนี้เราจะโฟกัสไปที่ตัวยะโออิที่เป็นกระแสในตอนนี้กัน โดยเมื่อย้อนกลับไปดูที่รากศัพท์ของคำว่า วาย หรือที่เรียกกันว่า Yaoi (ยะโออิ)

เป็นศัพท์ที่มีรากมาจากภาษาญี่ปุ่น เป็นคำที่ใช้เรียกในแวดวงนิยายรวมทั้งการ์ตูน ในบางครั้งนิยายแนวนี้จะถูกเรียกว่า “Boy Love” นิยายวายแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่ใช่แค่หญิงกับเพศชาย แต่ว่าเป็นความรัก ความข้องเกี่ยวของชายกับชาย มีเรื่องมีราวนานัปการแนวราวกับนิยายทั่วๆไปไม่ว่ารักจะเป็น แนวสืบสวนสอบสวน ระลึกชาติ รักวัยใสในมหาวิทยาลัย หรือแฟนตาซีเป็นต้น เว้นแต่เค้าโครงเรื่องที่น่าสนใจแล้วนั้น ในส่วนของตัวละครเอกในนิยายวายยังมีศัพท์ที่ใช้เรียกตัวละครเอกชายแบบเฉพาะบุคคลเป็น“เคะกับเมะ” โดย เคะ หรือชื่อเต็มๆคือ อุเคะ (Uke) มาจากคำว่า Ukeru เป็นเพศชายที่เป็นฝ่ายรับ

ซึ่งจะเป็นลักษณะผู้แสดงที่ดูนุ่มนิ่ม อ่อนหวาน บอบบาง มีหุ่นองค์เอวเล็ก รวมทั้งบริเวณใบหน้าหวาน ส่วนตัวละครที่เป็นเมะก็จะมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกัน เมะ ย่อมาจาก เซะเมะ (Seme) ซึ่งก็คือผู้ชายที่เป็นฝ่ายรุก ชอบมีลักษณะที่อดทน บึกบึน สามารถดูแลคุ้มครองปกป้องตัวเคะได้นั่นเอง

ความนิยมในวัฒนธรรมวายมาแรงขึ้นเรื่อยๆความนิยมชมชอบนี้ปรากฏให้มองเห็นในหลายวงการ หลายโปรดักต์ ทั้งยังนิยายวาย ที่เป็นหนังสือขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าติดสวนกระแสความซบเซาของแวดวงหนังสือในสมัยโควิด มาตั้งแต่ต้นปีจนถึงในงานหนังสือครั้งล่าสุด ทั้งละคร-ซีรีส์วายที่หลายเรื่องมีชื่อเสียงเป็นกระแสในประเทศไทยไปถึงต่างเมือง
“วาย” คืออะไร มีที่มาที่ไปยังไง แล้วเพราะเหตุใดถึงได้รับความนิยมขนาดนี้ “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จะเชื้อเชิญศึกษาเล่าเรียนวัฒนธรรมวายที่กำลังเพิ่มบทบาทจากวัฒนธรรมย่อยซึ่งกลายเป็นหนึ่งวัฒนธรรมกระแสหลักในสังคมไทย เป็นจังหวะเป็นขุมเงินขุมทองใหม่ของธุรกิจคอนเทนต์เบิกบานและก็ธุรกิจหนังสือในยุคนี้ ซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะเบาๆลงง่ายๆจุดเริ่มต้นแล้วก็เส้นทางความนิยมชมชอบของ “วาย”

 

“วาย” (Y) มาจากคำว่า ยะโออิ (Yaoi) ในภาษาประเทศญี่ปุ่น เป็นคำศัพท์ในแวดวงนิยายแล้วก็การ์ตูนประเทศญี่ปุ่นที่ใช้เรียกงานโดจิน (การ์ตูนโป๊) ชนิดหนึ่งที่แต่งล้อเลียนมังงะหรืออะนิเมะที่กำลังดัง ถัดมาคำว่า “ยะโออิ”

 

ได้ถูกใช้ไปในความหมายที่ไม่เหมือนกับเดิม โดยคือนิยายหรือการ์ตูนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับชายรักชาย ซึ่งความหมายในด้านนี้เริ่มต้นมาจากการที่แฟนๆนำแคแร็กเตอร์จากตัวละครใน อนิเมะ การ์ตูน นิยาย มังงะ โดจิน หรือเกมที่ตนเองชอบใจมาแต่งใหม่ให้มีลักษณะความข้องเกี่ยวแบบชายรักชาย และก็ถัดมาลักษณะความเกี่ยวเนื่องอย่างนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างเป็นBoys” Love หรือ BLการที่แฟนคลับนำแคแร็กเตอร์ตัวละครในนิยายหรือนักแสดงศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบมายกเมฆให

ม่ มีชื่อเรียกการผลิตสรรค์เนื้อหาลักษณะนี้ว่า “แฟนฟิกชั่น” (FanFiction) หรือผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งก็อาจจะเรียกสั้นๆว่า “แฟนฟิก” (FanFic) หรือสั้นกว่านั้นอีกว่า “ฟิก” (Fic) ซึ่งมาจากคำว่า Fanclub+Fiction เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของแฟนคลับ โดยการสังเกตโมเมนต์ต่างๆของนักแสดง นักแสดง ดาราที่ชอบ หลังจากนั้นก็เอามาแต่งเป็นแฟนฟิก กลับหน้าหลัก

ซึ่งชื่อจริงละคร ลักษณะนิสัย จะอ้างอิงจากตัวตนจริงของศิลปิน ผู้แสดงคนนั้นๆความชื่นชอบในวายเห็นได้ชัดในกลุ่มแฟนคลับนักแสดงประเทศเกาหลีและก็ญี่ปุ่น ซึ่งในไทยนั้นมีการแต่งแฟนฟิกชายรักชายมานานราว 20 ปีแล้ว บางทีอาจจะเรียกได้ว่าแฟนฟิกเข้ามาในสังคมไทยพร้อมทั้งการเข้ามาของนักแสดง J-pop ก่อนที่จะแพร่หลายขึ้นอีกพร้อมทั้งความนิยม K-pop ซึ่งเนื้อหาของแฟนฟิกก็ชอบเกิดเรื่องความสัมพันธ์ของชายกับชาย เพราะเหตุว่าแฟนคลับเอาผู้แสดงมาจากศิลปินในวงที่ตัวเองพอใจ ซึ่งเป็นวงชายล้วนนั่นเองในระยะหลังๆเห็นแฟนฟิกที่เกิดขึ้นจากกลุ่มแฟนคลับของศิลปิน นักแสดงไทยมากขึ้น แม้กระนั้นแฟนฟิกส่วนใหญ่จะไม่นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ เพราะเหตุว่าถือว่าเป็นการฝ่าฝืนทรัพย์สินทางปัญญา แต่ เหล่านักแสดง ดาราหนังก็มิได้มีความรู้สึกว่าการที่แฟนคลับแต่งแฟนฟิกนั้นจะก่อให้ตนเสียหาย แม้แต่เป็นความสุขของแฟนคลับพวกเขาก็พร้อมที่จะเซอร์วิสโดยการสร้างโมเมนต์ให้แฟนคลับได้มองเห็นกันเสมอๆ