รับผลิต ซอฟเจล
รับผลิต ซอฟเจล เจลาติน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการสลายคอลลาเจนด้วยกรดหรือด่าง มีลักษณะเป็นผงสีน้ำตาลอ่อน สามารถสกัดได้จากกระดูกและหนังสัตว์ (ได้แก่ วัว ควาย หมู) เมื่อนำผงเจลาตินมาอุ่นด้วยน้ำที่อุณหภูมิประมาณ 32 องศา มันจะหลอมกลับกลายเป็น ของเหลวหนืด ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ของเหลวจะเซ็ตตัวเปลี่ยนเป็นเจล (เค้าหน้าคล้ายเยลลี่)
เจลาตินเป็นโปรตีนที่บริสุทธิ์ไม่มีน้ำตาล, ไขมันและคาร์โบไฮเดรตไม่มีไร้ (ไม่มีแคลอรี่) จำนวนมากที่ไม่น่าจะใช่ไขมันหรือสินค้านมไขมันต่ำมักใช้เจลาตินเพื่อที่จะรักษารสชาติและเค้าหน้าอร่อยของหมวดเขา เมื่อไขมันถูกกำจัดออกไปมากยิ่งกว่าวิธีการใช้เป็นรสชาติที่เพิ่มเติมขึ้น ตัวแทนเจลาตินตัวเองเป็นอย่างสูงสำหรับการควบแน่นแหล่งโปรตีน รับผลิตซอฟเจล เจลาตินที่มีความเข้มข้นสูงของกรดอะมิโน (โปรตีน) ไลซีน กรดอะมิโนเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการรักษาและอำนวยความสะดวกสำหรับในการเจริญโตขึ้นของเนื้อเยื่อของร่างกายใหม่ และกระดูกหรือของที่สามารถเพิ่มอีกคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์ เจลาตินค่อนข้างปลอดภัยสำหรับในการบริโภคโดยดิ่งเนื่องด้วยมันมีประสิทธิภาพต่ำมากสำหรับปฏิกิริยาภูมิแพ้
การประยุกต์ใช้เจลาติน
เจลาตินทำขึ้นเพื่อที่จะสำหรับเพื่อการบริโภคของคนเราและจำนวนมากจะใช้เป็นตัวแทนก่อเจล ซึ่งเป็นตัวแทนผูกพัน, อิมัลชัน, โคลง, ตัวแทนกาวและตัวแทนการยึดเหนี่ยวที่มีความแข็งแรง เป็นต้น ในอุตสาหกรรมอาหารเจลาตินถูกเอามาใช้กันอย่างแพร่หลายในเบเกอรี่ผลิตภัณฑ์นม, ขนม, เยลลี่, ไอศกรีมเนื้อและเขียงและเครื่องดื่ม ฯลฯในการใช้ในอุตสาหกรรมยา, เจลาตินเป็นที่นิยมใช้เป็นยาเม็ดเคลือบ, การผลิตแคปซูลอ่อน / แข็ง, อาหารโปรตีนตอบแทนพลาสม่า (ขยายจำนวนเลือด) และสำหรับเพื่อการผ่าตัดรากฟันเทียม เป็นต้น
สำหรับในการใช้งานทางด้านเทคนิคจะใช้เจลาตินในภาพยนตร์, sticks ดิ่งกับลูกบอลสี, ทรายเอกสาร, กาว และในการทำ encapsulation ไมโครหมึกของกระดาษคาร์บอน เป็นต้น
เจลาตินใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
มีการนำ เจลาตินมาใช้เพื่อสำหรับการเป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์หลากหลายจำพวก ได้แก่ เครื่องสำอาง ยา อาหาร และฟิลม์ถ่ายรูป ทางเภสัชกรรมจะใช้เจลาตินสำหรับในการเคลือบเม็ดยา,ผลิตเป็นแคปซูลทั้งชนิดแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่มเพื่อจะใช้จำนวนยา, ใช้เป็นสารเพิ่มเติมความหนืดในตำรับยาต่าง ๆ , ใช้เป็นส่วนผสมของยาประเภทครีม ฯลฯ
สร้างแบรนด์อาหารเสริม วิตามินซีทานแค่ไหนถึงพอดี
มีคำแนะนำวิธีใช้วิตามินซีมาฝากจ้ะ วิตามินซี นั้นมีทั้งข้อดี และข้อบกพร่องนะคะ ขึ้นกับสภาวะร่างกายและสภาพในณ เวลานั้นๆ ซึ่งการหากรัปประทานทานมากเกินไป อาจจะมีผลให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น อาการท้องร่วง ปัสสาวะหลายครั้ง และผื่นขึ้นตามตัวและผิวหนัง ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว ควรลดจำนวนการทานลง และเพื่อผู้ป่ายโรคมะเร็งที่กำลังอยู่ด้านในช่วงฉายแสงหรือให้เคมีบำบัด ไม่ควรรับประทานวิตามินซีนะคะเพราะเหตุว่าอาจจะไปเปลี่ยนแปลงผลการตรวจได้ นอกเหนือจากนั้นนี้วิตามินซีจะถูกเคลื่อนออกจากร่างกายด้านใน 2-3 ชั่วโมงแค่นั้น ข้างหลังการรับประทาน ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารในกระเพาะด้วย และการรักษาดีกรีวิตามินซีในเลือดให้สูงอยู่ตลอดระยะเวลาก็เลยถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขรูป
เกร็ดความเข้าใจวิตามินซี
-คนที่จำเป็นจะต้องไปตรวจสอบเลือด ตรวจสอบปัสสาวะ ดังเช่นมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรจะพูดแพทย์ว่าคุณกำลังทานวิตามินซีอยู่ การตัดสินจะได้ไม่ผิดพลาด เนื่องจากว่าวิตามินซีจะมีผลให้ไม่พบเลือดในอุจจาระ การตวรจมะเร็งในลำไส้ก็เลยคงจะคลาดเคลื่อนได้
-คนที่เป็นเบาหวานควรรู้ดีว่าค่าที่ได้จากการตรวจสอบหาน้ำตาลในปัสสาวะคงไม่ถูกต้อง ถ้าคุณยังรับประทานในจำนวนสูง
-ยารักษาโรคเบาหวาน ดังเช่นว่า คลอร์โพรพาไมด์ (ไดอะบินีส) และยาในหมู่ซัลฟา คงจะมีคุณภาพด้อยลง ถ้ารับประทานเข้าร่วมกับวิตามินซี
-ผู้คนที่เป็นโรคเบาหวานชนิด 2 หรือคนที่เป็นความดันโลหิตสูง สามารถลดความดันโลหิตลงได้ เพียงรับประทานวิตามินซีวันละ 500 มก.
-ผู้คนที่มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้มีเหล็กรวบรวมในร่างกายมาก เช่น ทาลัสซีเมีย หรือฮีโมโครมาโตซิส ไม่บอกต่อให้รับประทานวิตามินซีจำนวนสูง
-ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ทำลายวิตามินซีได้ ด้วยประการฉะนี้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีก๊าซประเภทนี้หนาแน่น จำเป็นต้องรับประทานเสริม
-ถ้าทานยาคุมเกิด ควรทานวิตามินซีเสริมเติม
-หากรับประทานแอสไพริน บอกต่อให้เพิ่มปริมาณการทนวิตามินซีขึ้น เนื่องด้วยแอสไพรินจะก่อให้วิตามินซีถูกขับเคลื่อนเร็วถึง 3 เท่า
-ถ้าทานโสม ควรเว้นระยะสัก 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานวิตามินซี หรือแม้แต่อาหารที่มีวิตามินซีสูง
-เพื่อที่จะบรรเทาอาการหวัด ให้รับประทานวันละ 2 ขณะ ในจำนวน 1,000 มก. เนื่องมาจากประสบว่าจะช่วยลดเกรดฮิสตามีนในเลือดลงถึงร้อยละ 40 (ฮิสตามีนเป็นสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการน้ำมูกน้ำตาไหลนั้นเอง)
-ศัตรูของวิตามินซีคือ น้ำ การปรุงอาหาร ความร้อน แสง ออกซิเจน การสูบบุหรี่ เนื่องจากจะก่อให้ลดศักยภาพลง
ทราบไหมว่า เกี่ยวกับวิตามินซี??
ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้นจะถูกใช้ให้หมดไปอย่างรวดเร็วทันใจอยู่ตกอยู่ในภาวะเครียดมีหน่วยวัดเป็น มก.ป้องการการเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลจำพวกชั่วร้าย หรือที่เรียกว่า แอลดีแอลคนที่สูบบุหรีและผู้สูงอายุ ต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้น เพระร่างกายสูญเสียวิตามินซี 25-100 มก.ต่อการสูบบุหรีหนึ่งมวลขนาดที่บอกต่อให้รับประทานต่อวันอยู่ที่ 60 มก. แต่ถ้าอยู่ด้านในตอนตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรเสนอแนะให้ทาน 70-95 มก.แหล่งวิตามินซีที่ยอดเยี่ยม คือ ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอรรี่ ผักใบเขียว แคนตาลูป มะเขือเทศ มันฝรั่ง ดอกกะหล่ำ และพริกไทย
โรคที่มีเหตุที่เกิดจากการขาดวิตามิน คือโรคเลือดออกตามไรฟัน
ขนาดที่นำเสนอให้รับประทานคือ 500 มก.ไปจนกระทั่ง 4 กรัมต่อวัน (แต่ควรจะสิ้นสุดพักการทานวิตามินซีที่เป็นลักษณะเม็ดบ้าง เพื่อให้ตับไม่ดำเนินงานนัก เนื่องจากในเป็นกิจวัตร พวกเราเองก็ทานอาหารที่มีจำนวนวิตามินซีอยู่แล้ว หากยิ่งเสริมไปอีกมากๆ จะกลายเป็นรวบรวมนะค่าาา)
ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และผลเสีย การรับประทานอาหารเสริม รับผลิต ซอฟเจล หรือยา ก่อนใช้ควรจะอ่านข้อมูลบนฉลากให้ครบถ้วน เพื่อจะสุขภาพและความปลอดภัยของตัวเราเองจ้ะ และอย่าเผลอรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ ด้วยความอยากดี และความห่วงใยจากพรีมาแคร์
หุ่นเพรียวสวยเป๊ะ ด้วย 4 สุดยอดสมุนไพรลดน้ำหนักสุดปัง ไม่ต้องการง้อยาลดความอ้วน ลดน้ำหนัก
หุ่นเพรียวสวยเป๊ะ ความอยากได้ของสาวๆหลายคน หลายคนทุ่มเทกับการออกกำลังกาย เข้าฟิสเนต ควบคุมอาหาร การเข้าสถาบันเสริมความงดงาม หรือแม้กระทั้งทานอาหารเสริมลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ต้องการจะกินยาลดความอ้วน ยาลดน้ำหนัก เนื่องจากว่ารู้ดีว่าอันตราย ได้แก่ ใจสั่น, ปากแห้ง, คอแห้ง, ลมหายใจเหม็น, น้ำหนักพุ่งเป็นโยโย่(YOYO effect) หลังจากจบสิ้นยา เป็นต้น จะดีไม่นิดหน่อยถ้าคุณรู้จักดีเอาไปใช้จากพืชผักสมุนไพรไทยของพวกเราเพื่อที่จะการในเวลาเดียวกันกับการกำกับการจัดการงานลดน้ำหนัก ลดความอ้วนของแต่ละคน
1.ส้มแขก(การ์ซีเนีย หรือ Garcinia)
เคยชินกันอย่างดีเยี่ยม และ รู้จักกันอย่างมากมาย ส้มแขก เป็น ผลไม้เขตร้อน มีสรรพคุณในการลดน้ำหนัก ช่วยลดอันดับคอเลสเตอรอล ปรับลำดับชั้นน้ำตาลในเลือดให้สมดุล กำจัดไขมันส่วนเกินไม่ให้เข้าสู่ร่างกายและลดความปรารถนาอาหารให้ลดน้อยลง เนื่องจากว่ามีกรดไฮดรอกซีซิตริก (HCA) ซึ่งมีส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการคุ้มครองไม่ให้น้ำตาลกลูโคสแปรไปเป็นไขมัน ที่มาของความอ้วนอีกด้วยค่ะ
2.ผงบุก(คอนยัค หรือ konjac)
มีสรรพคุณสำหรับในการลดน้ำหนักที่ดีเยี่ยมที่สุด ด้วยเหตุว่ามีสารกลูโคแมนแนน (Glucomannan) ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งจำพวกหนึ่ง ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปจะมีผลให้รู้สึกอิ่ม เนื่องด้วยความเหนียวข้นของสารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะสำหรับในการช่วยชะลอการชมดซึมของกลูโคสไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้ท่านรับประทานอาหารอื่นๆได้น้อยลง และบุกยังมีกากใยอาหารที่สูงเหมาะกับคนที่ขับถ่ายยากและต้องการดีท็อกซ์สารพิษต่างๆไปจากร่างกายอีกต่างหาก
3.ขมิ้นชันสมุนไพรไทยสุดเจ๋ง
สมุนไพรพื้นบ้านซึ่งมีสารเคอร์คูมิน (curcumin) ซึ่งมีฤทธิ์สำหรับเพื่อการขจัดไขมันได้เป็นอย่างดี เหตุเพราะหลักลักษณะการทำงานของสารชนิดนี้จะมีผลให้กำเนิดความร้อน ซึ่งมีส่วนช่วยสำหรับในการยับยั้งการเจริญเติบโตของไขมัน ช่วยลดลำดับขั้นคอลเลสเตอรอลในร่างกาย นอกเหนือจากนี้นี้ยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในจำนวนสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สว่างใสและยังมีสรรพคุณสำหรับการคุ้มครองปกป้องและรักษาโรคต่างๆ อย่างโรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน, โรคในระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ ได้ดีอีกต่างหาก
4.พริกเร่าร้อนดังไฟร์เอ่อร์
สุดยอดสมุนไพรรสชาติเผ็ดร้อน มีคุณลักษณะสำหรับในการลดน้ำหนักที่ดีมาก เนื่องจากในพริกมีกรดแอสคอบิก (Ascorbic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติสำหรับการช่วยให้ไขมันถูกเผาผลาญและปรับแปรไปเป็นพลังงาน มีหัวใจสำคัญในการลดระดับคอลเลสเตอรอลและขจัดสารพิษต่างๆออกจากร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เห็นอย่างนี้แล้วคนไหนที่มีระบบการเผาผลาญในร่างกายต่ำ การรับประทานพริกในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวันจะช่วยให้ระบบการเผาพลาญในร่างกายดียิ่งขึ้นจ้ะ
อาหารเสริมชี้แนะเพื่อเพศหญิงไปสู่วัยทองคำ
“วัยทอง” เป็นช่วงเวลาที่หลายท่านอาจไม่ต้องการจะประสบ เนื่องด้วยเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของร่างกาย อะไรที่เคยสดใสกลับแห้งเหี่ยว อารมณ์ที่เคยเบิกบานกลับฉุนเฉียวแปรปรวน ร่างกายที่เคยแข็งแรงก็กลับอิดออด รวมถึงสารพัดสารพันปัญหาอื่นๆที่คนในวัยนี้จำเป็นต้องเผชิญ
จากข้อมูลของโรงพยาบาลบำรุงมวลชน์เผชิญว่าขณะอายุ 45-55 ปี โดยเฉลี่ยแล้วคืออายุ 50 ปี เป็นขณะที่เพศหญิงจะมีอาการของวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน ซึ่งหากคนไหนกำลังจะไปสู่อายุปัจจุบันนี้หรือมีคนรอบตัวได้แก่ คุณแม่ คุณป้า ที่อยู่ภายในวัย ควรจะทานอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และอาจจะจะต้องทานอาหารเสริมบ้างเพื่อจะป้องกันภาวะร้อนแรงจากช่วงวัย อย่าง 7 อาหารเสริมที่จะบอกต่อในวันนี้สำหรับคนวัยทองคำจ้ะ (อาจจะจะนำไปเป็นไอเดียสำหรับเพื่อการผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมเพื่อคนวัยนี้ก็ได้เช่นกันนะคะ)
1.วิตามินอี (Tocopherol รวม)
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยลดภาวะเสื่อมต่างๆของร่างกาย รับผลิต ซอฟเจล ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ในคนวัยทอง วิตามินอีจะช่วยลดอาการวูบวาบเมื่อทานคู่กับซีเลเนียม
2.วิตามินบี
อาหารเสริมหมู่วิตามินบี ไม่ว่าจะเป็น บี 1 บี 2 บี 6 หรือ บี 12 ต่างทำงานร่วมกันเพื่อจะช่วยแก้ปัญหาหลักของวัยทองเลยคือความเครียด เนื่องมาจากความเครียดจากสิ่งที่ร่างกายกำลังปรับเปลี่ยนทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ รวมทั้งอาการซึมเศร้า ซึ่งถ้ารับประทานวิตามินบีรวมเป็นประจำ อาการต่างๆที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความเครียดก็จะลดลงค่ะ
3.แคลเซียม
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในวัยทองคำทำให้การสะสมตัวของกระชมกน้อยลง ส่งผลให้เกิดข้อขัดแย้งในเรื่องของกระดูกพรุน ซึ่งเป็นภัยเงียบ ไม่แสดงอาการ จะรู้ก็ต่อเมื่อสำรวจวัดมวลกระชมก หรือมีลักษณะอาการหักเปราะของกระชมกอย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้การทานแคลเซียมเสริมในวัยทองเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อที่จะลดอุปสรรคของกระชมกพรุน (อย่าหลงลืมทานคู่กับวิตามินดีด้วยนะเพื่อที่จะทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการดูดซึม)
4.ไอโซฟลาโวน
เป็นสารอาหารที่พบได้ในพืชตระกูลถั่วอย่างถั่วเหลือง เมื่อทานกลุ่มอาหารพวกนี้เข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถแปรเปลี่ยนเป็นไฟโตเอสโทรเจน (เป็นสารที่มีรูปร่างคล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจน) ก็เลยช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยทองคำได้ อีกอีกทั้งที่ช่วยลดการสะสมตัวของคอเลสเตอรอล และคุ้มครองการกำเนิดโรคมะเร็งต่างๆได้อีกต่างหาก
5.โสม
โสมก็เป็นพืชอีกหนึ่งจำพวกที่มีสารไฟโตเอสโทรเจน จึงช่วยลดวิชาความรู้สึกไม่สะดวกต่างๆยกตัวอย่างเช่น อาการร้อนวูบวาบ อาการอ่อนเพลียในคนวัยทองคำได้ และที่เด็ดคือช่วยเพิ่มอารมณ์และระดับความสามารถทางเพศได้ เหมาะมากสำหรับคนวัยนี้ซึ่งจะมีความรู้ความสามารถสึกทางเพศลดลง
6.ตังกุย
พืชสมุนไพรจีนที่เกิดการเอามาใช้กันอย่างยาวนาน ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทองคำ พร้อมลดอาการช่องคลอดแห้งและภาวะซึมเศร้า ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี พร้อมลดความรู้สึกปวดท้องประจำเดือนหรืออาการ PMS ได้ (พืชนี้เหมาะทั้งสาววัยทั่วไปและสาววัยทองเลยนะเนี่ย)
7.อีฟนิ่งพรีมโรส
น้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มแบบอย่างโอเมก้า 6 สูง จะช่วยลดอาการทั้งณ เวลา PMS ก่อนมีประจำเดือนและอาการในขณะวัยทองอาทิเช่น ความรู้สึกไม่สะดวกสบายตัว ร้อนวูบวาบ ผิวแห้ง ผิวที่ค่อนข้างหยาบกระด้าง ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งช่วยลดภาวะเสี่ยงของโรคดวงใจและโรคหลอดเลือดที่วัยสูงอายุเป็นกันเยอะได้อีกด้วย