ผลิตอาหารเสริม
ผลิตอาหารเสริม ธุรกิจอาหารเสริมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี (ศูนย์พินิจพิจารณาเศรษฐกิจ คราวเอ็มบี) ถึงแม้ในยามวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็ยังเป็นที่เรียกร้อง ผลิต อาหารเสริม และยังมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอสวนทางกับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจอาหารเสริมยังมีความสามารถในการเติบโตอย่างแข็งแรง
ทำให้มีคนที่สนใจลงสู่สนามธุรกิจอาหารเสริมเยอะมากๆหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังพึงพอใจธุรกิจอาหารเสริม หรือกำลังเริ่มต้นธุรกิจอาหารเสริม นี่เป็นข้อเสนอแนะที่สำคัญสำหรับคุณสำหรับในการเริ่มธุรกิจอาหารเสริมหรือเริ่มต้นสร้างแบรนด์อาหารเสริม เพื่อนำพาธุรกิจหรือแบรนด์อาหารเสริมของคุณสู่การประลองในตลาดที่จัดว่ามีการแข่งขันกันอย่างหนักมากตลาดหนึ่งอย่างแรกที่คุณต้องทำเป็น
จัดเตรียมขอข้อมูลตลาด
ข้อมูลการตลาดเป็นเรื่องจำเป็นมากในการเริ่มธุรกิจ การลงทุนธุรกิจโดยปราศจากข้อมูลก็เหมือนการคลำหาประตูในที่มืด ข้อมูลเป็นสิ่งที่นักการตลาดจำเป็นต้องนำมาใช้สำหรับการพินิจพิจารณาเพื่อใส่ความอยากที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย คนซื้อ ข้อมูลการตลาดจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจของคุณบรรลุผลสำเร็จ
ข้อมูลการตลาดจำต้องไม่ใช่การเสวนาในห้องที่ใช้ในการประชุมเพียงแค่ไม่กี่คน แต่ว่าควรจะเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจ การศึกษาวิจัยอย่างเป็นขั้นตอน โดยขั้นตอนนี้คุณสามารถพึ่งบริษัทรีเสิร์ช ผู้ให้คำปรึกษา บริษัทที่รับผลิตอาหารเสริมแบบครบวงจร ODM ซึ่งจะมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก
เตรียมเงินลงทุน/งบประมาณ/ค่าครองชีพ
เงินทุนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเพื่อการลงทุนธุรกิจ ดูเหมือนจะทุกขั้นตอนสำหรับเพื่อการทำธุรกิจต้องใช้เงินทุนด้วยกันทั้งมวล อีกทั้งวิธีการทำการตลาด การสร้างผลิตภัณฑ์ การจัดตั้งบริษัท การพัฒนาสูตร การซื้อวัตถุดิบ การว่าจ้างพนักงาน ฯลฯ คุณสามารถหาเงินลงทุนได้ทั้งจากเงินลงทุนส่วนตัว หรือการขอสินเชื่อแบงค์หรือสถาบันการเงิน
จำนวนเงินลงทุนจะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะธุรกิจของคุณ มีตั้งแต่ว่าหลักแสนจนกระทั่งหลักหลายสิบล้าน ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของนักลงทุนธุรกิจ แม้คุณอยากลงทุนธุรกิจอาหารเสริม ลงทุนปรับปรุงสูตร รวมถึงสร้างโรงงานผลิตอาหารเสริมด้วยตนเอง อาจจะจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงสูงถึงสิบล้าน
ปัจจุบันผู้ที่สนใจธุรกิจอาหารเสริมหรือกำลังสร้างแบรนด์อาหารเสริมจะนิยมใช้ขั้นตอนการว่าจ้างบริษัทผลิตอาหารเสริม โดยแม้คุณมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเสริมอยู่แล้ว บางครั้งก็อาจจะใช้บริการโรงงานรับผลิตอาหารเสริม OEM แม้กระนั้นถ้าหากคุณยังขาดประสบการณ์ และอยากได้พัฒนาสูตรเฉพาะสำหรับแบรนด์อาหารเสริมของคุณภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงมากมาย สามารถใช้บริการบริษัทรับผลิตอาหารเสริม ODM ได้
เตรียมหา Partner
Partner ที่ว่าก็คือบริษัทผู้ให้บริการรับผลิตอาหารเสริม หรือโรงงานผลิตอาหารเสริม ตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบ บริษัทให้คำแนะนำ อื่นๆอีกมากมาย การมี Partner จะช่วยทำให้ธุรกิจอาหารเสริมของคุณราบรื่น ทั้งในด้านการพัฒนาสูตร การจัดหาวัตถุดิบที่ต้องการ และหารผลิตอาหารเสริมที่ต้องใช้ความรวดเร็ว
ตระเตรียมวัตถุดิบ
วัตถุดิบเป็นหัวใจหลักของธุรกิจอาหารเสริม การเลือกวัตถุดิบจำเป็นต้องเริ่มจากโฟกัสว่าอยากได้ตอบสนองความต้องกลุ่มเป้าหมายในด้านใด ผิวพรรณ บำรุงร่างกาย รูปร่าง ฯลฯ หลังจากนั้นก็เลยร่วมกับการตลาดเพื่อระบุตลาดจุดมุ่งหมาย ตลาดพรีเมียม หรือตลาดมวลชน หรือที่เรียกกันว่าตลาด MASS ซึ่งมีข้อดีข้อผิดพลาดแตกต่าง
และมีความยากง่ายไม่เหมือนกันออกไปด้วย แม้เป็นตลาด MASS ควรที่จะเลือกสารสกัดที่เป็นที่ชื่นชอบ ผู้คนรู้จัก ซึ่งมีจุดเด่นคือมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดเยอะมากๆ หาข้อมูลง่าย ปรับปรุงสูตรได้อย่างรวดเร็ว แต่จุดบกพร่องคือการแข่งขันด้านราคาแพง เพราะเหตุว่าส่วนใหญ่คู่แข่งเองก็มีจะมีสารสกัดแบบเดียวกัน ไม่เหมือนกับตลาดพรีเมียมที่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบแบบเฉพาะ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรีเสิร์ชข้อมูล
เตรียมดีไซน์คิดค้น/ศึกษาค้นคว้า/ปรับปรุงสูตร
เมื่อได้วัตถุดิบและไปสู่วิธีการพัฒนาสูตร ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญแล้วก็ข้อมูลเกี่ยวกับงานศึกษาวิจัย หรือบางทีอาจจะจำเป็นต้องศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ขั้นตอนนี้เจ้าของกิจการอาหารเสริม หรือผู้ที่กำลังสร้างแบรนด์อาหารเสริมสามารถเลือกได้ว่าจะวางแบบ ศึกษาค้นคว้า พัฒนาสูตรด้วยตนเอง
ซึ่งจะมีลักษณะเด่นก็คือ ได้สูตรที่เป็นความลับเฉพาะด้านในบริษัท แต่ก็ยุ่งยากในแนวทางการเลือกเฟ้นพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญ รายจ่ายสูง ส่วนมากเจ้าของธุรกิจอาหารเสริมที่ไม่มีโรงงานของตนเองและก็ยังไม่มีประสบการณ์จะใช้บริการบริษัทรับผลิตอาหารเสริม ODM เพราะเหตุว่าบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแบบ ODM
จะมีประสบการณ์และก็ความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาสูตร อีกทั้งมีผู้ที่มีความชำนาญ เภสัชกร ที่ช่วยคิดค้นและผสมสารสกัดได้อย่างมีคุณภาพ การใช้บริการบริษัทรับผลิตอาหารเสริม ODM จะช่วยอดออมงบประมาณการลงทุนในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักพัฒนาสูตรอาหารเสริม ฯลฯ แล้วก็ยังสามารถหารือผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลาด้วย
จัดเตรียมกำหนดแผนการตลาด
การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ ธุรกิจอาหารเสริมมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในตอนการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด – 19 ทำให้มีการแข่งที่สูงมากมาย จึงจำเป็นต้องใช้นักการตลาดที่ชำนาญสำหรับเพื่อการสร้างแบรนด์อาหารเสริมโดยตรง สิ่งจำเป็นเป็นจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่าจะทำการตลาดกับลูกค้ากรุ๊ปใด ลูกค้ากลุ่ม MASS หรือลูกค้าพรีเมียมเฉพาะกลุ่ม เพื่อออกแบบกระบวนการสื่อสารให้เหมาะสมกับกลุ่มคนซื้อในตลาดที่เลือก สารสกัดอาหารเสริมที่เลือก แล้วก็ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จะผลิต
เตรียมผลิต
กรรมวิธีการผลิตต้องได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะตลาดกรุ๊ปใด ลูกค้ากลุ่มไหน ก็ล้วนแล้วแต่อยากได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ได้ประสิทธิภาพทั้งนั้น สิ่งสำคัญเป็นการผลิตโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ได้มาตรฐาน หรือเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ดี ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีความคิดเห็นว่าโรงงานรับผลิตอาหารเสริม
หรือบริษัทรับผลิตอาหารเสริมอยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียว เจ้าของกิจการอาหารเสริมหรือเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมสามารถเยี่ยมชมโรงงานรับจ้างผลิตอาหารเสริมหรือบริษัทผลิตอาหารเสริมที่พึงพอใจก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจ และก็เพื่อเห็นสภาพโดยรอบ ความสะอาด มีความเห็นว่ามีโรงงานจริง นอกเหนือจากนั้นจะต้องมี Certificate of Manufacturer จากองค์กรของกินรวมทั้งยา ผ่านมาตรฐานต่างๆดังเช่นว่า GMP HACCP HALAL ฯลฯ เพื่อสินค้าอาหารเสริมที่ผ่านการผลิตได้คุณภาพออกสู่ตลาดรวมทั้งได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
จัดเตรียมออกสินค้าสู่ตลาด
เมื่อจะนำสินค้าออกสู่ตลาดเพื่อโปรโมทให้ลูกค้ารู้จัก คุณจะต้องทราบถึงข้อเด่นลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของคุณ แล้วก็ต้องวางแผนว่าจะโปรโมทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของคุณเช่นไร อยากได้ชูสารสกัดใดที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายพอใจ ถ้าเป็นสารสังเคราะห์ จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสาร
โดยบางทีอาจจะเน้นย้ำที่คำตอบ แม้กระนั้นถ้าเป็นสารสกัดธรรมชาติ สามารถชูโรงเรื่องสารสกัดธรรมชาติได้เลย เนื่องจากได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งถ้าเกิดมีการติดต่อที่ดี กลุ่มเป้าหมายก็จะสนใจ รวมทั้งสามารถกลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้นอกเหนือจากขั้นตอนต่างๆที่กล่าวมา การมีที่ปรึกษาที่ดีก็สามารถช่วยนำพาธุรกิจอาหารเสริมของคุณไปสู่จุดหมายได้ ด้วยประสบการณ์อันนานในธุรกิจอาหารเสริม 3C ชำนิชำนาญทั้งด้านวัตถุดิบ การตลาด การศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาสูตร และก็พร้อมที่จะให้คำแนะนำและนำพาคุณเข้าสู่ธุรกิจอาหารเสริมได้อย่างมีคุณภาพ
OEM และก็ ODM เป็นยังไง? แตกต่างอย่างไร?
การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์จำพวกอาหารเสริมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากว่าสามารถทำเป็นอย่างเร็วกว่าก่อนหน้ามาก เนื่องด้วยมีโรงงานรับผลิตอาหารเสริมครบวงจร พร้อมที่รองรับงานในพร้อมสรรพ ก็เลยทำให้นักธุรกิจหน้าใหม่เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมได้อย่างไม่ยากเย็น ในส่วนของโรงงานรับผลิตอาหารเสริมครบวงจรเองนั้นก็ควรจะมีการปรับตัว
เพื่อตอบสนองความจำเป็นของลูกค้าให้ได้มากเพิ่มขึ้นพร้อมๆกับสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของตนเองไปในตัว ในหลักการทำงานในส่วนของโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมนั้น จะปรากฏคำ 2 คำที่แพร่หลาย ที่มีคำเรียกย่อๆว่า OEM และ ODM แล้วมันเป็นอย่างไร? และก็มีความไม่เหมือนกันยังไง? วันนี้ มารูโมะ จะพาไปทำความเข้าใจกัน ตามไปดูเลย
คำว่า OEM ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer
รูปแบบของโรงงานที่รับผลิตสินค้าชนิดนี้ คือโรงงานมีเครื่องจักรที่ใช้เพื่อสำหรับการผลิตอยู่แล้ว แล้วก็รับผลิตผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเพื่อนำไปติดแบรนด์ที่มีอยู่แล้วของลูกค้า ได้แก่ ลูกค้ามีแบรนด์ที่แข็งแรงแล้วในตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไร หรือแม้แต่อะไหล่รถยนต์ยี่ห้อดัง สมาร์ทโฟน ก็บางครั้งอาจจะพึ่งโรงงานจำพวกนี้ และก็โรงงานจำพวกนี้มักมีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มีเครื่องหมายรับประกัน เชื่อถือได้ในเรื่องของประสิทธิภาพที่แบรนด์ดังไว้เนื้อเชื่อใจ
ข้อดีของโรงงาน OEM
1.ช่วยลดทุนการสร้างต่ำ
2.ผู้ครอบครองแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตนเอง
3.ไม่ยุ่งยากต่อการเปลี่ยนลักษณะหรืออุบายทางธุรกิจ
4.มีผู้ชำนาญรวมทั้งที่ปรึกษาทางการผลิตรอดูแล
ข้อตำหนิของโรงงาน OEM
1.มีต้นทุนการสร้างสูงขึ้นยิ่งกว่าผลิตเอง
2.แม้ใช้สูตรกลาง สินค้ารวมทั้งคุณภาพบางครั้งอาจจะไม่ต่างจากแบรนด์อื่นๆมากนัก
ODM ย่อมากจาก Original Design Manufacturer
โรงงานแบบงี้มักจะมีปรับปรุงขึ้นมาจากแบบOEMคือเป็นโรงงานที่มีการทำวิจัยเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ถ้าหากเป็นการผลิตอาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง จะมีการสร้างสรรค์ ทำวิจัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพรวมทั้งลักษณะเด่นที่ต่างจากสินค้าที่มีอยู่เดิมในตลาด การคิดปรับปรุงนั้นมีการทดลอง ทดสอบความสามารถ
แล้วก็เป็นสูตรที่พอดีให้มีมาตรฐานของตน อีกทั้งมีความพร้อมสำหรับในการให้บริการครบวงจร อย่างที่โรงงานรับผลิตอาหารเสริมครบวงจรนิยมทำกัน มันก็คือเว้นเสียแต่ผลิตแล้ว ยังรับออกแบบทั้งโลโก้ ฉลากสินค้า อีกทั้งหาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมแล้วก็งดงาม ถูกใจตลาด รวมทั้งลงบัญชี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ครบวงจรเพื่อลูกค้าที่มาใช้บริการผลิตเพื่อสร้างแบรนด์จะได้สะดวก และได้ผลิตภัณฑ์รวดเร็ว มีเอกลักษณ์เฉพาะนั่นเอง
ข้อดีของโรงงาน ODM
1.ไม่ต้องออกแบบเอง สามารถขายได้เลย เหมาะกับผู้ริเริ่มทำแบรนด์
2.ถ้าหากเลือกออกแบบที่เป็น Exclusive จะได้แบรนด์สินค้าที่ไม่ซ้ำใคร
3.ช่วยลดเงินลงทุนการผลิตต่ำ สามารถย้ายฐานการสร้างไปประเทศที่ทุนน้อยกว่าได้ตลอด
4.เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
5.มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิต แล้วก็การออกแบบคอยดูแลเอาใจใส่ด้วยความใกล้ชิด
จุดอ่อนของโรงงาน ODM
1.มีต้นทุนและก็ค่าใช้สอยการสร้างที่สูงกว่า โรงงานชนิดอื่น เพราะเหตุว่ามีเรื่องการออกเข้ามาเกี่ยวพันด้วย
มาดูสิ่งที่แตกต่างระหว่าง OEMและก็ODM กันเลยดีกว่า!
1.) OEMเป็นการดำเนินการผลิตของโรงงานที่รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ตามสูตรการสร้างของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำไปติดแบรนด์ที่ติดอันดับอยู่แล้วของตน ส่วนODM เป็นโรงงานที่มีรูปแบบการผลิตที่มีการปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้า
2.) OEMเป็นการทำงานผลิตแบบรับจ้าง ไม่ต้องมีความเสี่ยง เพราะเป็นการรับจ้างผลิต ส่วนODM แม้ว่าจะต้องรับความเสี่ยงแล้วก็ลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง เนื่องจากว่าต้องทดลองแล้วก็ทดสอบผลิตภัณฑ์ แม้กระนั้นก็นับเป็นความล้ำหน้าของธุรกิจ
เว้นแต่ OEM, ODM ที่เรารู้จักแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือ OBM นั่นเอง แล้วคืออะไร ดังนี้
OBM ย่อมาจาก Original Brand Manufacturerหมายถึงการสร้างภายใต้ต้นแบบแล้วก็ยี่ห้อสินค้าของตัวเอง เหมาะกับแบรนด์ที่มีความมั่นคงยั่งยืน และก็เป็นโรงงานที่พัฒนาต่อได้สุดกำลัง เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์แล้วก็จำหน่ายในปริมาณที่มาก โดยมุ่งเน้นผลิตแม้กระนั้นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ของตนแต่เพียงเพียงแค่นั้น ต้นทุนการผลิตสินค้าชนิดนี้อาจแตกต่างกันในแต่ละล็อต เพราะว่าทางบริษัทสามารถคุมราคาทุนของผลิตภัณฑ์ได้อย่างอิสระ และก็สามารถผลิตตามกำลังที่ปรารถนาในแต่ละล็อตได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมประสิทธิภาพของสินค้าได้ในทุกแนวทางการผลิต เนื่องจากสามารถตรวจทานประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ได้ในทุกขั้นตอนแล้วก็ผลิตภัณฑ์จากโรงงานประเภทนี้ก็ยากต่อการเลียนแบบ เนื่องจากว่ามีเพียงทางบริษัทเท่านั้นที่ทราบกระบวนการผลิตนั่นเอง