john wick ในขณะที่เขาเองก็ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เพราะยังมี โบวารีคิง (Laurence Fishburne) ราชาโลกใต้ดิน รวมทั้ง ชิมาสึ โคจิ (Hiroyuki Sanada) ผู้จัดการอพาร์เม้นท์ เดอะ คอนว่าขานเนนทัล สาขาโอซากา แล้วก็ วินสตัน (Ian McShane) และชารอน (Lance Reddick) ผู้จัดการและพ่อบ้านรีสอร์ท เดอะ คอนว่ากล่าวเนนทัล สาขานิวยอร์กเจ้าเดิมเจ้าเดิม รอคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
ทั้งวินสตัน ชารอน รวมถึงทุกคนที่มานะบากบั่นให้การช่วยเหลือเขา john wick ถูกกดดันอย่างยิ่งจาก มาร์กีย์ วินเซนต์ เดอ เธอรมงต์ (Bill Skarsgård) ผู้ได้รับอำนาจสูงสุดจากสภาขุนนางในการเตรียมการกับ จอห์น วิค มือสังหารบาบายาก้าก็เลยควรต้องเริ่มเดินทางไปไกล 3 เมือง 3 ทวีป
ทั้งกรุงปารีส เบอร์ลิน และจากนั้นก็โอซากา เพื่อหาวิถีทางประมือกับอำนาจล้นฟ้าของวุฒิสภาให้จะต้องได้ และแถมยังต้องเอาชีวิตรอดจากบรรดานักล่าฆ่าหัวตัวท็อปที่วุฒิสภาส่งมาปิดบัญชีเกลียดชัง ทั้งนายไม่มีตัวตน (Shamier Anderson) รวมทั้ง เคน (Donnie Yen) มือสังหารตาบอดรวมทั้งอดีตเพื่อนเก่าของ จอห์น วิค เป้าหมายจะเด็ดหัวเขาด้วยด้วยเหมือนกัน
john wick : Chapter 4 จอห์น วิค
แรงกว่านรก 4
แบบไม่ต้องย้อนความให้เสียเวล่ำเวลาขอรับ ซึ่งก็ดีอย่างตรงที่ตัวหนังก็สามารถเล่าทุกสิ่งทุกอย่าง กับเปิดตัวแอ็กชันได้แบบเร็วๆโดยที่แทบจะไม่ต้องปูเรื่องจากภาคที่แล้วให้เสียเวล่ำเวลา แม้กระนั้นตัวหนังเองก็มีการใช้องค์ประกอบ ดาราหนัง และกิมไม่กเล็กๆน้อยๆจากภาคก่อนๆด้วย เป็นถ้าให้นักประพันธ์แนะนำ ก็อยากได้ชี้แนะว่าน่าจะหาดูทั้ง 3 ภาคแรกมาก่อนเพื่อเข้าใจในองค์ประกอบรวมทั้งเรื่องราวอย่างสมบูรณ์
แต่ว่าหากว่ายุ่ง ผู้กระทำระกระโดดมาดูภาคนี้ก่อนแล้วย้อนไปดูภาคเก่าก็ยังถือว่าไม่ผิดบาปล้นหลามขอรับ แม้กระนั้นอาจจะงงมากกับที่มาของบางเส้นเรื่อง เล็กน้อยประกอบนิดนึงสิ่งที่คงชื่นชอบรวมทั้งสะใจแฟนหนังในภาคนี้ชนิดที่เรียกว่าสมการรอก็คือ ด้วยความยาวหนังที่ยาวมากกว่าทุกภาคหมายคือ2 ชั่วโมง 49 นาที หรือ 169 นาที ก็เลยทำให้ตัวหนังเพิ่มฉากแอ็กชันหรูที่มองดูโอ้อวดนิดๆแต่ก็ยังมีความโก้เก๋ ดิบร้ายแรง
เหมือนจริงในสไตล์ จอห์น วิค อัดกันตั้งแต่เริ่มเรื่อง เป็นยังเริ่มเรื่องได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี พี่จอห์น วิค ก็ได้เรื่องซัดคนฝึกฝึกคอยแล้ว รวมทั้งแต่ละฉากก็เป็นฉากแอ็กชันที่เน้นช็อตยิงยาวซะด้วย เป็นกล่าวได้ว่าแค่นั่งดูเฉยๆยังละเหี่ยครับผม เนื่องจากว่ามันเดือดแบบไม่มีพักไม่มีผ่อน ผู้เขียนกะประมาณเอานะครับว่า ฉากแอ็กชันในหนังนี่เป็นรวมกันคงเกิน 50% ของหนังทั้งเรื่องไปแล้วมั้ง เป็นกว่าจะพักเพื่อเดินเส้นเรื่องต่อได้แต่ละทีนี่ก็เรียกว่าเหนื่อยล้าอย่างกับลงไปต่อสู้เองอย่างไรแบบงั้น
ตัวหนังเรียกได้ว่าเริ่มเล่ากัน แบบกระชับฉับไว
ซึ่งในมุมหนึ่งมันก็เป็นการโชว์ความพิถีพิถันของงานด้านการออกแบบคิวบู๊ รวมทั้งการเตรียมงานด้านสตันท์แมนที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ จอห์น วิค 4 โดยเฉพาะในขณะที่ john wick จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังเมืองต่างๆเราก็จะได้แลเห็นฉากแอ็กชันในเมืองนั้นๆที่มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์นาๆประการ
ไม่ได้เพียงตีๆยิงๆกันเฉยๆดังเช่นตอนที่เดินทางไปเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เดอะ คอนติเตียนเนนทัล สาขาโอซากา งานคิวบู๊ก็จะมีความเป็นทวีปเอเชียสูงมาก มีการต่อสู้ที่ผสมความเป็นกังฟู มีการใช้ตระบองสองท่อน ผสมกลิ่นหนังซามูไรหน่อยๆในเบอร์ลินก็จะมีความย้ำการดวลปืน การใช้ขวานแล้วก็ไพ่เป็นอาวุธ และก็ในกรุงปารีส ก็จะได้เห็นคิวบู๊ที่มีการใช้รถยนต์เข้ามาประกอบ และก็กลิ่นความเป็นหนังคาวบอยตะวันตกเข้ามาผสม
อีกข้อดีของ ‘John Wick’ จากทุกภาค
ก็คือ งานด้านภาพที่ดีไซน์ได้สวยแปลกตา ซึ่งในภาคนี้ก็เหมือนกับคณะทำงานร้อนของ เลยจัดเต็มงานด้านภาพมากยิ่งกว่าภาคอื่นๆทำให้เราจะได้เห็นฉากแอ็กชันที่ไม่ใช่แค่มันและก็ชั่วร้ายเลือดสาดอย่างเดียว ถึงแม้ยังดีไซน์องค์ประกอบภาพได้อย่างน่าสนใจ การใช้สีสันที่ Contrast ตัดกันแจ่มแจ้ง และก็มุมกล้องที่มีไว้ถ่ายรูปที่หวือหวาจัดเต็มมากยิ่งกว่าทุกภาค
ทั้งฉากแอ็กชันแบบ Long Take กันแบบยาวๆรวมทั้งมุมกล้องที่มีไว้สำหรับถ่ายภาพที่แปลกออกไป ที่ผู้แต่งประทับใจมากมายก่ายกองก็คือ ฉากแอ็กชันในกรุงปารีสที่อยู่ในองก์ที่ 3 นี่แหละที่เรียกว่าจัดเต็มแบบเบิ้มๆไปเลย ทั้งฉากดริฟต์รถยนต์ที่รีฟส์ใช้เวลาฝึกหัดเป็นเวลายาวนานกว่า 9 เดือน ฉากต่อสู้บนบันไดสูง และฉากที่เราจะได้แลเห็น จอห์น วิค ยิงปืนสอยเปรี้ยงๆๆทีละคนสองคนด้วยปืนลูกซองพ่นไฟ (Dragon’s Breath) จากมุมสูง! เป็นคิวบู๊และจากนั้นก็มุมกล้องถ่ายสำหรับภาพที่โคตรคราวฟต์และจากนั้นก็บ้าพลังเยอะแยะๆ
ถึงแม้ว่าตัวหนังแอ็กชันจะจัดเต็มขนาดนี้ แต่สิ่งที่จัดว่าทำเป็นดีขึ้นมาอีกขั้นก็คือเรื่องบทครับผม โดยเฉพาะการถักต่อภาพของจักรวาลมือสังหารให้ไปไกลมากกว่าเดิม 678moviehd นอกจากเรื่องของเหรียญทองที่ใช้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนสินค้าแล้วก็ผลตอบแทนของเหล่ามือสังหาร การเพิ่มหรือปลดพื้นที่ศูนย์กลาง แบรนด์สัญญะ (แบรนด์แทนคำปัญญาระหว่างมือสังหาร) การตีตราภาระหน้าที่แห่งชาติกำเนิด คนแก่ที่อยู่เหนือสภาขุนนาง
การเข้าพิธีบูชากลับสู่ชาติกำเนิด การรับรองความซื่อตรงต่อสภาขุนนางที่ยอมเจ็บตัว หรือไม่ครั้งคราวก็ยอมตายได้เลย ขณะที่เราก็จะได้เห็นการถอยกลับมาบอกเรื่องของบาปที่จอห์น วิค ควรต้องพบเห็น เนื่องจากว่าแม้การที่เขาฆ่าคนไปนับร้อยๆจะเกิดเหตุที่เราอาจจะมีความคิดว่ามันถูกเป็นกลาง (และแอบสมใจ) อยู่และตามที ตัวหนังก็สะท้อนอีกมุมให้มีข้อคิดเห็นว่า บางครั้งบางครวการไล่ฝ่าดะฆ่าคนของ john wick บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่แนวทางการสุดท้ายที่จะล้างบางกับอำนาจอันล้นเหลือของวุฒิสภาก็ได้
While he himself is not fighting alone, there is also the Bovary King (Laurence Fishburne), the king of the underground world, as well as Shimazu Koji (Hiroyuki Sanada), the manager of The Conva Central Apartment, O branch. Saga, then Winston (Ian McShane) and Sharon (Lance Reddick), the manager and butler of The Congregational Resort. Same old New York branch. Waiting for help in the background
Both Winston, Sharon, and everyone who tries to help him, John Wick 4 is under intense pressure from Marquis Vincent de Thurmont (Bill Skarsgård), the most powerful person in the House. The nobleman in preparation for John Wick, Baba Yaga’s assassin, had to travel 3 cities and 3 continents.
Paris, Berlin, and then Osaka. To find a way to compete with the Senate’s overwhelming power, it must be possible. And must also survive from the top killers sent by the Senate to shut down the hate list. Including Mr. Invisible (Shamier Anderson) as well as Kane (Donnie Yen), a blind assassin and a former friend of John Wick who aims to take his head off as well.
John Wick: Chapter 4
Without having to go back and waste time. Which is good because the movie can tell everything. With the introduction of action quickly without having to waste time on the story from the previous part. betflix1150 However, the movie itself also uses elements, movie stars, and little gimmicks from previous installments. It is if the writer recommends it. I would like to suggest that I should watch the first 3 parts first in order to completely understand the elements and the story.
But if you’re busy Those who jump to watch this part first and then go back to watch the old part are still not considered guilty of a huge sin. However, you may be very confused about the origins of some story lines. A little bit of what you probably like and will satisfy movie fans in this part is what is called the waiting equation. With a movie length that is longer than any other part, meaning 2 hours 49 minutes or 169 minutes, it makes the movie add luxurious action scenes that look a bit showy but still have a chic, raw, serious quality.
Realistic in John Wick style, packed together from the beginning of the story. It hasn’t even been half an hour since the story started. John Wick has already gotten into trouble with the trainees. Including each scene is an action scene that emphasizes long shots. It can be said that just sitting and watching still makes me feel lonely. Because it boils without any rest or relaxation. The author estimates that The action scenes in this movie together make up more than 50% of the entire movie. It took a while to take a break to continue the story, but each time I felt exhausted, like I had to fight on my own.
The movie can be said to have started telling a story. Quick and concise
In one sense, it shows off the meticulousness of the action design. Including the preparation of the stuntmen that came out excellent in John Wick 4, especially when John Wick had to travel to different cities, we were able to see the action scenes. The slopes in that city are different and have many unique characteristics.
It’s not just just fighting and shooting like when traveling to The Continental Service Apartment, Osaka branch. The action sequences will also have a very Asian feel. There is a fight that is mixed with Kung Fu. A two-piece baton was used. Mixed with a little samurai movie smell, in Berlin there will be an emphasis on gunfights. Using axes and cards as weapons And in Paris You will see action sequences that use cars. and the smell of western cowboy movies mixed in