profender monotube ปรับ 8

profender monotube ปรับ 8

profender monotube ปรับ 8profender monotube ปรับ 8 โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกอย่างไร , เช็คอย่างไรว่าเสีย , ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงดี…?สวัสดีท่านผู้ครอบครองรถทุกคนขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียคำถามให้ได้รู้กัน กล่าวได้ว่าเมื่ออ่านเนื้อหานี้จบแล้ว “คุณจะต้องอยากได้รีบกลับไปเช็ครถยนต์ของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันประเด็นการใช้รถยนต์ในทุกวัน เราๆท่านๆชอบดูแลรถยนต์แค่เพียงการไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางเวลาไม่ให้ความสนใจระบบต่างๆที่สำคัญโน่นเป็น ระบบตอนล่าง ที่นอกจากจะช่วยเรื่องความละมุนละไมแล้ว ท่านทราบหรือไม่ครับ?

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนหลายคราวเป็นเนื่องจากว่าระบบตอนล่างของรถยนต์มีปัญหา kw suspension thailand ด้วยเหตุดังกล่าวอีกจุดแข็งหนึ่งก็คือ “ยึดรถยนต์กับผิวถนนแล้วก็ช่วยประเด็นการทรงตัวของรถยนต์” นั่นเองโดยธรรมดาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลากหลายชนิด แต่ลักษณะการทำงานไม่ต่างอะไรกันนัก ซึ่งลักษณะการทำงานในตอนนี้ มีอยู่ 2 จังหวะ คือ จังหวะยืด แล้วก็ จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถตอนล่างจะรอทุ่นแรงขณะยุบรวมทั้งยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองปกป้องไม่ให้ขณะเบรคฉับพลันแล้วหน้ารถยนต์ทิ่มแทงลง

(SHOCK ABSORBERS) มีหน้าที่โดยฐานรากเป็นตัวควบคุมการยุบตัว และการยืดตัวของสปริง (COIL SPRING) แหนบ (LEAF SPRING) แล้วก็สปริงแบบแท่ง (TORTION BAR) ถ้าเกิดว่าไม่มีโช้คอัพรถจะเต้นไม่หยุด โช้คอัพ เป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่มีความหมายชนิดหนึ่งในระบบรองรับของรถยนต์ เพื่อลดแรงชน ที่เกิดขึ้นมาจากผิวของถนนหนทางที่ไม่เรียบ ซึ่งโดยมีบทบาทโครงสร้างรองรับเป็น เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่รอควบคุม ลักษณะการทำงานของสปริงหรือแหนบ โดยเมื่อรถยนต์ได้รับแรงชน ด้วยเหตุว่าสภาพการณ์หนทาง

โช้คอัพจะเป็นตัวถ่วง การเคลื่อนที่ขึ้นแล้วหลังจากนั้นก็ลงของตัวรถยนต์ เพื่อให้รถยนต์ได้รับแรงสั่นสะเทือนต่ำที่สุด และก็ควบคุมล้อให้สัมผัสกับพื้นผิวของถนนขณะรถยนต์วิ่งวิธีการตรวจตราสภาพของโช้คอัพนั้นผู้ใช้รถยนต์สามารถตรวจทานได้ดังต่อไปนี้ ให้สังเกตุที่หน้ายางของรถยนต์ ถ้าเกิดโช้คอัพอับอายยางจะสึกเป็นช่วงๆรอบๆให้ใช้มือกดรอบๆด้านบนของบังโคลนทั้งยังหน้ารวมทั้งข้างหลังหลายๆครั้ง แล้วปล่อยมือรอบๆที่กด ก็จะมีลักษณะอาการยืดรวมถึงหด ถ้ามีลักษณะกระดอนหลายๆครั้ง แสดงว่าโช้คอัพนั้นเสีย ในขณะที่ขับขี่รถผ่านทางที่ตะปุ่มตะป่ำหรือทางที่เป็นทางลูกระนาด รถยนต์จะมีลักษณะอาการโยนตัวต้นสายปลายเหตุมาจากสปริง หรือแหนบจะยืดและก็หดตัวอย่างมากมาย

ตราบจนกระทั่งยางป้องกันกระแทก จะชนกับปีกนกตัวบนอยู่ตลอดเวลา มีความหมายว่าตอนนี้โช้คอัพเหนื่อยที่ จะหน่วงการเคลื่อนที่ของสปริงหรือแหนบพอเพียงแล้ว ให้สังเกตุเวลาขับขี่รถจะคิดว่าควบคุมรถยนต์ได้ยากมากมาย ซึ่งก็ถือได้ว่า โช้คอัพไม่อาจควบคุมการดีดตัวของสปริง หรือแหนบได้ ล้อจะเต้นกระทั่งหน้าสัมผัสของยางลอย จากผิวของหนทาง อาการอย่างนี้จะเกิดอันตรายอย่างยิ่งในขณะขับขี่รถเข้าทางโค้งด้วยความเร็วสูง จะทำให้รถยนต์เสียการทรงตัวได้ ให้สังเกตุว่าโช้คอัพมีรอยเปื้อนน้ำมันไหลออกมาไหม ถ้าไม่แน่ใจให้ใช้ผ้าขัดแล้วทดลองตรวจสอบมองอีกทีเนื่องจากรอยเปื้อนน้ำมันนี้อาจจะมาจากสารหล่อลื่น แกนของโช้คอัพก็เป็นไปได้

หากแม้ถูแล้วมีคราบน้ำมันอีกก็มีความหมายว่าโช้คอัพเสียให้ถอดโช้คอัเพียงพออกมาแล้วดึง ทดลองความหนืด โดยถอดจุดยึดด้านล่างของโช้คอัเพียงพออกแล้วออกแรงดึง การวิเคราะห์โช้คอัพลักษณะนี้ น่าจะตั้งตัวโช้คอัพให้ตั้งฉากกับพื้น แล้วรอสังเกตุความหนืดของโช้คอัพมีกี่แบบพวกเราบางทีอาจเคยได้ยิน แบบเดิมๆกับ แบบแต่ง ก็อาจมีปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ปกติอย่างพวกเราๆว่ามีด้วยหรือ? แล้วที่ว่าแบบเดิมกับแต่ง แตกต่างกันยังไง? แล้วจะต้องแปลงไหม ? ก็จะบอกอย่างงี้ครับว่าอาจจะไม่มีความสำคัญในเรื่องที่ท่านขับขี่รถบนถนนหนทางในเมืองซึ่งแบบแต่งนั้นจะนิยมในกลุ่มนักแต่งรถยนต์ หรือนักแข่งขันสายซิ่งที่อยากเพิ่มความ สามารถของรถยนต์สำหรับเพื่อการขับขี่รถ การยึดเกาะถนนหนทาง แบบงั้นมาดูกันว่าของเดิมๆมีกี่แบบ

1. ประเภทกระบอกผู้เดียว (Mono Tube)ลักษณะของกระบอก จะเป็นชิ้นเดียวตามชื่อ แม้กระนั้นแบบผู้เดียวนี้ต้องมีให้ได้ที่ต้องใช้สิ่งของที่มีความแข็งแรง-ทนสูง สามารถรับแรงชนได้อย่างดีเยี่ยม หากตัวกระบอกไม่แข็งแรงพอเพียง แน่ๆว่าจะมีปัญหาสำหรับเพื่อการรับแรงจากรถยนต์ทั้งคันและแรงจากพื้นตอนที่กำลังขับขี่ อาจก่อให้กระบอกเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง แต่ว่าแค่เพียงแข็งแรงอย่างเดียวก็น่าจะไม่เพียงพอ เครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้ผลิตยังควรจะมีน้ำหนักค่อยอีกด้วย ก็เลยได้รับความนิยมในกลุ่มนักซิ่ง นักแต่งรถยนต์ ก็เลยทำให้แพงแพงกว่าแบบอื่น

2. พวกกระบอกคู่ (Twin Tube)เป็นแบบที่ใช้งานกันอยู่ธรรมดา ที่เรียกว่ากระบอกคู่ ก็เนื่องจากด้านในเป็นกระบอกสองชั้น (มีการปฏิบัติการของกระบอกที่สลับซับซ้อนกว่าแบบ Mono Tube พอควร) กระบอกด้านในทำหน้าที่เป็น “กระบอกสูบ” ซึ่งมีน้ำมันที่วางแบบมาเป็นพิเศษใส่เอาไว้ภายใน ส่วนช่องว่างภายนอก จะเป็น “ช่องสำรองน้ำมัน”

แบ่งเป็นอีก 2 แบบซึ่งก็คือแบบน้ำมันสิ่งเดียวเรียก “ประเภทกระบอกคู่-แบบน้ำมัน” จะมีน้ำมันใส่ราว2 ใน 3 ที่เหลือจะเป็นอากาศการที่บรรจุน้ำมันในปริมาณที่มากช่วยในประเด็นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล อีกจำพวกยอดนิยมในช่วงเวลานี้เป็น จำพวกกระบอกคู่-แบบแก๊ส” ก็จะใส่ “แก๊ส” เอาไว้ในช่องน้ำมันสำรองนี้ด้วย โดย”ก๊าซ”นี้จะช่วยสำหรับในการตอบกลับที่เร็วทันใจทั้งการคืนตัวเร็ว-ยุบช้า แต่ว่าจะมีความแข็งแรงมากกว่าแบบน้ำมัน (แก๊สเพียรพยายามดันสู้ตลอดเวลา) ก็ได้ประเด็นการเกาะวิถีทางที่ดี ลดอาการโยกตัวแม้กระนั้นความนิ่มนวลก็จะลดลงกว่าแบบน้ำมันสรุปจุดเด่นของ จำพวกกระบอกคู่คือเงินลงทุนการผลิตถูกกว่า ตัวเครื่องไม้เครื่องมือไม่จำเป็นที่ต้องทนราวกับ ประเภทกระบอกสันโดษ เพราะกระบอกสูบจริงๆนั้นอยู่ภายใน ด้านนอกเป็นช่องน้ำมันสำรอง ก็เลยไม่ค่อยพบเจอกับปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทำให้ราคาไม่สูงมาก ก็เลยเป็นที่นิยมรวมทั้งใช้กันอยู่ธรรมดาแถมสำหรับคนที่ประทับใจ

โช๊คอัพ รถยนต์ แบบแต่ง จะแบ่งเป็น 3 แบบ

1.ประเภทปรับความสูงไม่ได้ลักษณะอย่างกับของเดิมๆที่ติดมาพร้อมกับรถยนต์ ก็แค่มีการพัฒนาให้มีความรู้ที่สูงขึ้น หนึบแน่นยึดเกาะพื้นถนนก้าวหน้าขึ้น ซึ่งสังเกตว่าจะไม่สามารถปรับความสูงได้ เบ้าสปริงจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมที่สร้างมาจากโรงงาน เหมาะกับคนที่ชอบพอความหนึบโดยเฉพาะ รวมทั้งพอใจกับระดับความสูงจากพื้นของตัวรถยนต์ ไม่ต้องการให้โหลดหรือยกสูงมากมายไป

2.จำพวกสตรัทปรับเกลียวเป็นที่ชอบใจเหมาะสม รอบๆเบ้าสปริงสามารถปรับให้สูง-ต่ำได้ตามที่ผู้ครอบครองรถยนต์พอใจ มีสปริงทรงกระบอก เรียกว่า สปริงหลอด ที่ปรับความแข็งแรงหรือเรียกว่า “ค่า K.” ได้ ส่วนขนาดก็มีนาที่นาประการให้เลือก ซึ่งจะมองเห็นได้ว่าปรับแก้มาจากแบบแรกนั่นเอง เป็นที่นิยมมากที่สุดในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา

3. ประเภทสตรัทปรับเกลียว-แบบสไลด์กระบอกแบบสไลด์กระบอก สามารถปรับความสูงที่ตัวกระบอกได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งยากปรับที่เบ้าสปริงแล้ว ช่วยขจัดปัญหาหัวข้อการปรับความสูง แม้กระนั้นการปรับให้สามารถณะการทำงานโดยรวมออกมาดีนั้นเกิดเรื่องที่ท้าพอดิบพอดี นักซิ่งที่ใช้รถยนต์สำหรับการแข่งอยากได้ความรู้ความเข้าใจสูงๆทำให้อายุการใช้งานของรถยนต์สั้นลง

การปรับความสูงของสปริงก็จะยากขึ้นตามสภาวะของรถยนต์สรุปของแต่ง มีประโยชน์อย่างไรดูแล้วแม้เราๆท่านๆขับในเมืองธรรมดา น่าจะไม่จำเป็นที่ต้องไปเปลี่ยนของเดิมๆจะเปลี่ยนแปลงอีกรอบก็แปลงตามภาวการณ์ของอะไหล่ที่หมดอายุใช้งานแล้ว ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดียิ่งกว่า ส่วนนักแข่ง สายซิ่ง ที่จึงควรเพิ่มความสามารถให้รถยนต์ก็เห็นจะหนีไม่ได้ แม้กระนั้นข้อระวังอาจเกิดเรื่อง “การโหลดรถยนต์โดย “ตัดสปริง” ที่จำเป็นต้องใช้ช่างมีฝีมือสำหรับในการทำและตรวจเช็ควิจิตรก่อนใช้จริง เหตุเพราะได้โอกาสที่กระบอกสูบจะหักได้ในเวลาที่ใช้งาน

โช๊คอัพ รถยนต์ โช๊ค โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งอายุการใช้งานอะไหล่รถยนต์ ทุกชิ้นส่วนก็แก่การใช้แรงงานของมัน ดังนี้ขึ้นอยู่กับต้นเหตุต่างๆที่จะทำให้อายุของอะไหล่สั้นลง เป็นต้นว่า สภาวะหนทาง , ลักษณะการขับขี่ , น้ำหนักบรรทุก , การตรวจเช็คสภาวะรถยนต์ถ้าหากกล่าวถึงอายุการใช้งานของโดยธรรมดาเยอะๆจะอยู่ที่คร่าวๆ 3 ปี ถ้าหากคิดเป็นปริมาณกม.ก็อยู่ระหว่าง 60,000 – 100,000 ข้อบังคับ ถึงแม้นี่เป็นแค่เพียงการคาดคะเนอายุการใช้งานเพียงแต่คร่าวๆเท่านั้นเอง ส่วนปัจจัยหลักๆก็อย่างที่บอกขอรับ จำเป็นจะต้องสังกัดการใช้แรงงานของรถยนต์ด้วย หากว่าธรรมดารถยนต์ใหม่ ใช้งานที่ 25,000 ข้อบังคับ

แล้วเราจำต้องนำรถยนต์เข้าไปเช็คที่ศูนย์บริการสักนิดสักหน่อยว่า ระบบตอนล่างยังรับแรงชน ช่วยลดแรงกระเทือนของตัวรถขณะรถยนต์วิ่งรวมทั้งช่วยทำให้ปรับรถยนต์เกาะถนนหนทางขณะเข้าโค้งรุ่งโรจน์อยู่หรือไม่อาการทรุดโทรมพูดถึงอาการเสียกันบ้าง เมื่อรถยนต์ของคุณผ่านการใช้แรงงานมาเป็นระยะเวลานานพอเหมาะพอควร ขณะที่กำลังขับขี่ผ่านผิวรอยต่อถนนหรือขึ้นเนินหลังเต่า จะรู้สึกได้ถึงแรงชนที่มากแตกต่างจากปกติ หรือขณะขับรถยนต์ขึ้นสะพานจะรู้สึกแปลกๆว่ารถยนต์มีลักษณะอาการโจน ขับลงทางชันจะมีลักษณะอาการเด้ง ขณะที่กำลังขับรถยนต์ผ่านผิวที่เป็นแอ่งกระทะ ความเร็วราว70-80 กฎหมาย/ช.มัธยม จะมีความรู้สึกได้ว่ารถยนต์มีลักษณะอาการบินเล็กหน่อย จากอาการข้างต้นนี้ สามารถบอกได้ว่าคุณควรเช็คภาวะหรือเปลี่ยนแปลง โช๊คอัพ รถยนต์ ใหม่ได้เเล้ว

โช๊คอัพ รถยนต์ โช๊ค โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งตรวจเช็คบ่อยระบบช่วงล่างทำงานมากมากมายๆเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆอีกทั้งรองรับแรงชนแรงสั่นจากหลุม บ่อ คอสะพาน บนถนน ช่วยทำให้การขับขี่นุ่มนวลและก็ช่วยทำให้เราควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นใจอย่างนั้นพวกเรามาตรวจสอบรถยนต์ของพวกเรากันหน่อยเดียวว่ายังใช้งานเจริญก้าวหน้าอยู่ไหม ?

1.ตรวจสอบการคืนตัวเราสามารถพิจารณาการคืนตัวของรถยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงใช้มือกดรถยนต์บริเวณมุมที่อยากได้ทดสอบ ออกแรงกดสัก 5 ครั้ง เพื่อดูการคืนตัวของรถยนต์ ถ้าหากการคืนตัวที่ค่อนจะไวแสดงว่ายังปกติอยู่

2.ตรวจสอบรอยรั่วดูรอยรั่วของน้ำมันบริเวณข้อต่อต่างๆถ้าเจอรอยเปื้อนน้ำมันไหลออกมาจากกระบอก ก็มีโอกาสที่กระบอกจะรั่วได้ ซึ่งทำให้คุณภาพการทำงานนั้น ต่ำลงไปด้วยเหตุว่าน้ำมันที่ช่วยสร้างความละมุนละไมพร่องไปจากเดิม

3.พิเคราะห์ทรงแน่ๆว่าโดยธรรมดาจะเป็นทรงกระบอกแบบสมมาตร ถึงแม้ถ้าเกิดดูด้วยตาเปล่าแล้วผิดเพี้ยนไป ก็ไม่ต้องสงสัยขอรับอาจจะตกหลุมใหญ่ๆมา หรือได้รับแรงชนหนักๆตราบจนกระทั่งผิดแบบทรง การเปลี่ยนใหม่บางครั้งก็อาจจะเป็นแนวทางแรกๆของปัญหานี้ครับ

4.ดอกยางที่ล้อฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งสึกผิดปกติทดลองเช็คหน้ายางที่รถของคุณขอรับ ว่าดอกยางด้านไหนมีลักษณะอาการสึกเปลี่ยนไปจากปกติไหม! ถ้าหากสังเกตุพบร่องรอยการสึกที่ไม่บ่อยนักจากล้อข้างที่สงสัย อาจมีความหมายว่า ข้างนั้นๆของคุณน่าจะมีปัญหา

5.รู้สึกแปลกๆขณะออกสตาร์ท-เบรคทดลองตรึกตรองเมื่อออกสตาร์ทและก็เบรคตอนที่กำลังขับขี่ด้วยความเร็วปกติ ถ้าพบว่าในห้องโดยสารมีการสะเทือนมากยิ่งกว่าปกติ เวลาขับรถขึ้นเนินหรือลูกระนาดจะพบว่ามีการเด้งขึ้น-ลง จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าไม่นิ่มนวลอย่างที่ควรเป็น ให้รีบตรวจสอบโดยทันทีขอรับ

6.รถมีลักษณะบิน-ร่อนตอนที่กำลังขับรถยนต์ด้วยความเร็ว มีความคิดว่ารถมีลักษณะบินน่าจะเป็นที่ โช๊คอัพ รถยนต์ บางตัวมีการพังตราบจนกระทั่งไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมสมดุลของรถยนต์ได้เช่นเดียวกันกับตัวอื่นๆด้วยเหตุนี้เพื่อให้มีความปลอดภัย ให้รีบนำรถยนต์ไปตรวจเช็คที่ศูนย์หรืออู่จะยอดเยี่ยมเมื่อทราบอย่างงี้แล้ว รีบไปตรวจเช็ครถยนต์ของเรากันนิดหน่อย เหตุเพราะระบบตอนล่างเป็นจุดที่จะต้องรับแรงชนจากด้านล่าง แล้วก็ด้านบนอยู่เป็นประจำเวลา ถ้าเกิดตรวจเจอความผิดปกติคงจะรีบไปเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ในทันทีทันใด ด้วยความที่ไม่ใช่แค่เรื่องความนุ่มนวลสำหรับการขับรถ ยังเกิดเรื่องไม่มีอันตรายของตัวคุณเองด้วย

กลับหน้าหลัก