Sci-Fi

Sci-fi

Sci-Fi

Sci-Fi  สำหรับคนชอบดูหนังที่ถูกใจเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์ มีวิทยาการล้ำๆยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ A.I. การเดินทางไปในจิตใต้สำนึก หรือเรื่องราวแนวดาราศาสตร์ ที่มีการเดินทางในอวกาศ หรือจนถึงการเดินทางผ่านมิติเวลา ก็อาจจะรู้สึกไม่ฉงนใจนักเวลาได้มองเห็นข่าววิทยาการใหม่ การค้นพบดาวดวงใหม่ หรือ A.I. ที่เฉลี่ยวฉลาดขึ้นทุกทีในขณะนี้ เพราะว่าเรื่องจริงใน พ.ศ. นี้ ล้วนแต่เคยถูกเอ่ยถึงในหนังไซไฟมาแล้วทั้งมวล และอะไรที่ยังไม่กำเนิดก็น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เหมือนกัน เพราะว่าความรู้ไม่จำเป็นเท่าจินตนาการ

หนังไซไฟก็เลยเปรียบราวกับต้นน้ำที่จินตนาการของนักวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆสำหรับเพื่อการทดสอบค้นคว้าถึง “ความน่าจะเป็น” เผื่อ เรื่องราวที่ฝันไว้ในหนังอาจจะทำให้เกิดขึ้นจริงในอีกสิบอีกร้อยปีข้างหน้า และก็นี่เป็น 10 หนังไซไฟที่เหมาะสมที่สุดในรอบ 10 ปีที่ล่วงเลยไป Sci-Fi วิทยาศาสตร์ (อ้างอิงตามคะแนนของเว็บ iMDB และขอเลือกมาเฉพาะหนังต้นฉบับที่ไม่ใช่ภาคต่อแล้วก็หนังซูเปอร์ฮีโร แม้ว่าจะมีส่วนประกอบนิดหน่อยเป็นหนังไซไฟก็ตาม) แล้วก็หลายเรื่องดูได้แล้วบน Netflix

หากอ่านหนังเยี่ยมยอดแล้ว ใคร่รู้ไหมว่า “10 “หนังไซไฟ” อิหยังวะ? สุดแย่ในรอบ 10 ปี” มีเรื่องมีราวอะไรบ้าง อ่านพอดีนี่เลย หรือต้องการอ่านรายชื่อหนังไซไฟน่าดูเพิ่มอีก ก็เข้าไปอ่านถึงที่เหมาะ เปิดรายชื่อหนังไซไฟที่ “เยี่ยมที่สุด” ของศตวรรษ 21 ที่คนชอบดูหนังห้ามพลาด!

Sci-fi

อันดับ 10 Looper (2012) (Score 7.4/10)

ดาราหนัง: Joseph Gordon-Levitt, Bruce Willis, Emily Blunt

ทุนสร้าง/รายได้ทั่วทั้งโลก: 30 / 176 ล้านเหรียญฯ

หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลา-มิติคู่ขนาน

สนุกอย่างไร: นี่เป็นผลงานหนังที่ทำให้ ผู้กำกับ Rian Johnson เข้าตาบริษัทผลิตภาพยนตร์ใหญ่จนได้สร้าง Star Wars เรื่องราวของ “โจ” ผู้มีอาชีพที่เรียกว่าลูปเปอร์ มือสังหารที่คอยฆ่าเหยื่อที่ถูกส่งมาจากอนาคตปี 2072 ห่างจากปีที่โจอยู่ 30 ปี แต่ว่าเหยื่อรายปัจจุบันที่ทำให้โจดำเนินการพลาดก็คือ ตัวของเขาเองที่ถูกส่งมาจากอนาคต โจเด็กก็เลยต้องหาทางกำจัดโจแก่ (ผู้ที่รู้สึกว่าโจแก่ควรจะตายได้แล้วตามลูปที่วนซ้ำ) แต่ว่าโจเด็กก็ยังงงงวยเพราะว่าโจแก่ก็คือตัวของเขาที่ฆ่าไม่ลง ขณะโจแก่นั้นเก๋ารวมทั้งรู้ไต๋โจเด็กดีทุกสิ่งทุกอย่าง และก็มีแผนการบางอย่างเพื่อจะแปลงอนาคตด้วย หนังชวนลุ้นกับเส้นไทม์ไลน์ที่หักทฤษฎีเวลาของหนังเรื่องอื่นไปพอควร แต่ว่าก็ทำให้ได้ลุ้นเพราะเหตุว่าอนาคตใหม่อาจต่างจากอดีตเดิมๆก็ย่อมเป็นได้

อันดับ 9 Source Code (2011) (Score 7.5/10)

Source Code (2011)

ดาราหนัง: Jake Gyllenhaal, Michelle Monaghan, Vera Farmiga, Jeffrey Wright

ผู้กำกับ: Duncan Jones (Moon, Mute, Warcraft)

ทุนสร้าง/รายได้ทั้งโลก: 32 / 147 ล้านเหรียญฯ

หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลาวนลูป-มิติคู่ขนาน

สนุกอย่างไร: หนึ่งในหนังวนลูปตายแล้วตายอีกที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่ง รวมทั้งจะเรียกว่าหนังหักมุมกลายๆก็ไม่ผิดนัก เนื่องจากสำหรับใครกันแน่ที่ได้ดูครั้งแรก เมื่อดูไปถึงกลางๆเรื่องก็น่าจะช็อกเท่าๆกับ “โคลเตอร์” พระเอกในเรื่องด้วยเหมือนกัน โคลเตอร์ที่ร่วมงานทดสอบของรัฐบาลสำหรับในการซ่อนเร้นความคิดเข้าไปยังร่างของบุคคลอื่น รวมทั้งมีเวลา 8 นาที ในร่างนั้นเพื่อหาทางยับยั้งเรื่องราวระเบิดรถไฟที่เดินทางไปชิคาโก แต่แน่นอนว่า เขาไม่สามารถที่จะหาฆาตกรที่วางระเบิดหรือยับยั้งการระเบิดนั้นได้ แล้วก็ครั้งใดก็ตามเขาตายทุกๆสิ่งทุกๆอย่างก็จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ในเฮลิคอปเตอร์ที่ตกอยู่ในอัฟกานิสถาน โดยเขาจำเป็นต้องคุยกับนายทหารหญิงปลายสายที่ดูมีลับลมคมไหนกับภารกิจแสนงวยงงนี้

อันดับ 8 Predestination (2014) (Score 7.5/10)

Predestination (2014)

ผู้แสดง: Ethan Hawke, Sarah Snook, Christopher Kirby, Christopher Sommers

ผู้กำกับ: Michael and Peter Spierig (Jigsaw, Daybreakers, Winchester)

ทุนสร้าง/รายได้ทั่วทั้งโลก: ทุนสร้างไม่ปรากฎ / 4 ล้านเหรียญฯ

หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลา-มิติคู่ขนาน-หักมุม

สนุกสนานอย่างไร: เป็นหนังย้อนเวลารวมทั้งมิติคู่ขนานที่ตอนมองในโรงคงจะต้องร้องออกมาขณะที่หนังเฉลยว่า เล่นกันอย่างนี้เลยเหรอ! เพราะเหตุว่าจัดว่าหักแนวคิดเวลาของหนังส่วนใหญ่พอสมควร รวมถึงยังไม่เคยมองเห็นคนไหนกล้าเสนอหนังย้อนเวลาด้วยมุมมองนี้ ขี้บ่นกว่านี้คงสปอยล์แล้วก็ต้องการให้มองรอบแรกเองมากกว่าสำหรับคนที่ยังไม่เคยมอง เรื่องย่อก็คือ พระเอกเป็นข้าราชการทางการที่เรียกว่า Temporal Agent ประจำหน่วยงานที่ชื่อว่า Predestination สถานที่ทำงานยั้งอาชญากรรม ด้วยการเดินทางย้อนเวลาไปหยุดเหตุก่อนเกิดเหตุการณ์จริง เขาทำหน้าที่ฝึกฝนข้าราชการหญิงคนใหม่ ช่วงเวลาเดียวกันก็เกิดเหตุมือระเบิดอาละวาด ทำให้ทั้งสองร่วมมือกันสำหรับในการตามยับยั้งผู้ร้ายรายนี้ แต่ว่าก็พบว่าต้องตามหลังอยู่ก้าวหนึ่งเสมอ

Grey Trace วิศวกรที่มีภรรยารวมทั้งดำเนินชีวิตตามธรรมดาสุข

แต่อยู่ๆวันนึงกลับพบกับเรื่องราวที่ทำให้ชีวิตของเค้าแปรไปตลอดไป เพราะโดนกลุ่มชนปริศนาจู่โจมจนภรรยาเสียชีวิต และก็ตัวเค้าเองก็แปลงเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป รวมทั้งจู่ๆวันนึงก็ได้รับการเกื้อกูลติดตั้งเทคโนโลยี STEM ซึ่งเป็นระบบปัญาประดิษฐ์ที่จะทำให้ร่างกายของเค้าใช้งานได้อีกที แถมยังตั้งโปรแกรมให้เข้มแข็งคล่องแคล่วเหนือมนุษย์อีก Grey ก็เลยออกตามล่าฝูงชนปริศนาพวกนั้นเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงว่ามาจู่โจมเค้าเพื่ออะไรแน่…แม้กระนั้นเมื่อสาวลึกเข้าไปเรื่อยๆเค้าก็ยิ่งพบกับความลับที่น่าน่ากลัวกว่าเดิมอีกจ้ะ

หนังฮาร์ดไซไฟ (Hard Sci-Fi) เป็นหนังที่มีการเซ็ทส่วนประกอบโดยรวมที่ดูเหมือนจริง และให้ความเอาใจใส่ถึงการอ้างอิงแล้วก็หาสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ด้วยแนวทางและก็แนวความคิดด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งแก่นความคิดหรือเทคโนโลยีซึ่งเป็นส่วนสำคัญของหนังอาจเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันหรือมีทิศทางสูงที่จะเกิดขึ้นในโลกอนาคต โดยหนังฮาร์ดไซไฟจะมีความคาบกันกับหนังซอฟท์ไซไฟ (Soft Sci-Fi)

ที่แม้ว่าจะหนักแน่นด้วยความสมจริงสมจังด้านวิทยาศาสตร์ไม่ได้แตกต่างกันแต่ว่าตัวหนังมักแทรกสอดด้วยแอคชั่นเผชิญภัยเพื่อสร้างบรรยากาศที่มองผ่อนคลายกว่าการตรึงด้วยโทนดราม่าเน้นย้ำนำเสนอกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งการแบ่งแยกหนังทั้งสองชนิดให้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์จึงดูเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุว่าปัจจุบันนี้หนังบางเรื่องยังเกิดข้อถกเถียงถึงโทนหนังหรือความสมจริง เเละท้ายที่สุดแล้วจำต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์แล้วก็ดุลพินิจของนักเขียน เเน่นอนว่าหากกำเนิดจุดบกพร่องอย่างไรขึ้นทางผมเองก็จำเป็นต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย..

ดูครบทุกเรื่องหรือยัง? 10 หนังไซไฟ (ที่ไม่ใช่ภาคต่อ) ที่ยอดเยี่ยมในรอบ 10 ปีนี้

สำหรับคนชอบดูหนังที่ชอบเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์ มีวิทยาการล้ำๆอาทิเช่น หุ่นยนต์ A.I. การเดินทางไปในจิตไร้สำนึก หรือเรื่องราวแนวดาราศาสตร์ ที่มีการเดินทางในอวกาศ หรือจนกระทั่งการเดินทางข้ามมิติเวลา ก็บางทีอาจจะรู้สึกไม่แปลกใจนักเวลาได้เห็นข่าววิทยาการใหม่ การค้นพบดาวดวงใหม่ หรือ A.I. ที่เฉลี่ยวฉลาดขึ้นทุกทีในปัจจุบัน เนื่องจากเรื่องจริงใน พ.ศ. นี้ ล้วนแต่เคยถูกกล่าวถึงในหนังไซไฟมาแล้วทั้งปวง รวมทั้งอะไรที่ยังไม่เกิดก็น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่าความรู้ไม่สำคัญเท่าจินตนาการ

หนังไซไฟก็เลยเปรียบเทียบราวกับต้นห้วยแห่งจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์กิ่งก้านสาขาต่างๆสำหรับในการทดลองค้นคว้าถึง “ความน่าจะเป็นไปได้” เผื่อ เรื่องราวที่ฝันไว้ภายในหนังอาจส่งผลให้เกิดขึ้นจริงในอีกสิบอีกร้อยปีด้านหน้า รวมทั้งนี่เป็น 10 หนังไซไฟที่ยอดเยี่ยมในรอบ 10 ปีให้หลัง (อ้างอิงตามคะแนนของเว็บไซต์ iMDB และขอเลือกมาเฉพาะหนังต้นฉบับที่ไม่ใช่ภาคต่อรวมทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร แม้ว่าจะมีองค์ประกอบบางส่วนเป็นหนังไซไฟก็ตาม) รวมทั้งหลายเรื่องดูได้แล้วบน Netflix

อันดับ 10 Looper (2012) (Score 7.4/10)

Looper (2012)

นักแสดง: Joseph Gordon-Levitt, Bruce Willis, Emily Blunt

ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 30 /176 ล้านเหรียญฯ

หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลา-มิติคู่ขนาน Sci-Fi วิทยาศาสตร์

สนุกอย่างไร : นี่คือผลงานหนังที่ทำให้ผู้กำกับ Rian Johnson เข้าตาบริษัทหนังใหญ่จนได้สร้าง Star Wars เรื่องราวของ “โจ” ผู้มีอาชีพที่เรียกว่าลูปเปอร์ มือสังหารที่รอฆ่าเหยื่อที่ถูกส่งมาจากอนาคตปี 2072 ห่างจากปีที่โจอยู่ 30 ปี แม้กระนั้นเหยื่อรายปัจจุบันที่ทำให้โจทำงานพลาดก็คือ ตัวของเขาเองที่ถูกส่งมาจากอนาคต โจเด็กจึงต้องหาทางกำจัดโจแก่ (ผู้ที่มีความคิดว่าโจแก่ควรตายได้แล้วตามลูปที่วนซ้ำ) แต่โจเด็กก็ยังงงงันเนื่องจากโจแก่ก็คือตัวของเขาที่ฆ่าไม่ลง ขณะโจแก่นั้นเก๋าแล้วก็รู้ไต๋โจเด็กดีทุกสิ่ง แล้วก็มีแผนสำหรับการบางอย่างเพื่อจะแปลงอนาคตด้วย หนังชวนลุ้นกับเส้นไทม์ไลน์ที่หักทฤษฎีเวลาของหนังเรื่องอื่นไปพอควร แต่ก็ทำให้ได้ลุ้นเนื่องจากอนาคตใหม่อาจแตกต่างจากอดีตกาลเดิมๆก็ย่อมเป็นได้

https://toolofnadrive.com/