Biography
Biography ภาพยนตร์อัตชีวประวัติ เสริมสร้าง “แรงดลใจ” ที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย!ฮอลลีวูดมีช่องทางสำหรับเพื่อการหาไอเดียมาสร้างภาพยนตร์ได้นานาประการ อีกทั้งจากเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างหนังโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายขายดีบ้าง เอาโทรทัศน์ซีรีส์ได้รับความนิยมๆมาดัดแปลงเป็นหนังบ้าง แต่หนทางหนึ่งที่นิยมกันมากมายแล้วก็ส่วนมากมักจะบรรลุผลสำเร็จก็คือการผลิตหนังจากเหตุการณ์จริง หรือนำประวัติบุคคลจริงมาสร้าง เลือกจากบุคคลที่โด่งดัง บรรลุเป้าหมายมีชื่อเสียง หรือได้เคยสร้างความกล้าหาญที่น่าตื่นตกตะลึงไว้ Biography แต่ว่าภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่มีการลงทุนสูง ถ้าหากจะเล่าแบบตามจริงเป๊ะก็ไม่น่าจะสนุกพลาดท่าเดียว ผู้เขียนบทก็ต้องใช้ชั้นเชิง ปรับนิดเสริมหน่อยเพื่อความสนุกสนานของภาพยนตร์และก็ส่งผลให้หนังได้เงิน สตูดิโอได้กำไร ในบทความนี้พวกเราหยิบหนังดัง 9 เรื่อง Biography ที่ผลิตขึ้นจากบุคคลจริงที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์พร้อมด้วยเผยให้ทราบดีว่า ผู้ผลิตได้ปรับเปลี่ยนตัดหรือเพิ่มส่วนใดไปจากเรื่องราวจริง
The Glorias (2020)
เรื่องย่อ : รถบัส Greyhound ที่เต็มไปด้วย Gloria Steinems ทุกวัยขับไปตามถนน กลอเรียสเริ่มหวนนึกถึงอดีตกาล เมื่อยังเป็นเด็กกลอเรียติดใจพ่อของคุณเป็นพนักงานที่มีหน้าที่ขายของเก่าที่มีทัศนคติตอกย้ำซ้ำเติมแม่ ไม่กี่ปีถัดมาพ่อแม่ของเธอแยกทางกันแล้วก็กลอเรียในวัยเยาว์ถูกบังคับให้เป็นผู้ดูแลแม่ของเธอเมื่อคุณตกอยู่ในภาวการณ์เศร้าหมอง ด้วยความประหลาดใจคุณพบว่ามีบทความต่างๆที่เขียนโดยมีชายคนหนึ่งซึ่งแม่ของคุณกล่าวมาว่าเขียนโดยเธอก่อนแต่งงาน เวลาที่หญิงสาวกลอเรียเดินทางไปประเทศอินเดียเพื่อคบ กลับไปอเมริกาเธอหางานเป็นผู้รายงานข่าวรวมทั้งแม้จะมีการกีดกันทางเพศรวมทั้งการล่วงละเมิดแบบไม่เป็นทางการ แต่ก็สามารถเขียนเนื้อหาบทความเกี่ยวกับแฟชั่นและการออกเดทได้เสร็จ
ภายหลังจากเขียนนิทรรศการเกี่ยวกับภาวะการทำงาน ที่ไม่ดีของพนักงานเสิร์ฟที่ทำงานใน Playboy Club Steinem ก็ถูกผลิตขึ้น แต่คุณรู้สึกละอายที่งานของเธอชำรุดลงโดยตลอดและปฏิเสธคำแนะนำที่จะแปลงบทความของเธอให้กลายเป็นหนังสือ จากนั้นไม่นานพ่อของกลอเรียประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มาพบเขาหนึ่งอาทิตย์หลังจากเกิดอุบัติเหตุเธอทราบว่าเขาเสียชีวิตแล้วก็ รู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่คุณเลื่อนการมายอดเยี่ยมเนื่องจากว่ากลัวว่าคุณจำเป็นต้องมาเป็นผู้ดูแลของเขาราวกับคราวหนึ่งคุณเคยเป็นแม่ของคุณ ในขณะร่วมการประชุมมี.ค.ที่วอชิงตันเพื่อเขียนความเป็นมาของเจมส์บอลด์วินการคุยกับหญิงผิวดำเธอเปิดใจถึงอคติที่หญิงผิวสีต้องเผชิญในอเมริกาและก็การสมคบคิดของเธอในฐานะหญิงผิวขาว
หลังจากนั้น คุณก็เข้าร่วมการสนทนาเกี่ยวกับกระบวนการทำแท้งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งทำให้คุณพินิจพิเคราะห์ถึงวิธีการทำแท้งของคุณเองซึ่งเธอเพิ่งจะคบหาไม่นาน กลอเรียย้ายไปตามเรื่องราวของเพศหญิงคนอื่นๆและทราบว่าวารสารจะไม่อนุญาตให้คุณเขียนเรื่องราวที่คุณอยากกลอเรียเดินหน้าสู่การเคลื่อนไหวตีสนิทกับโดโรธีพิทแมนฮิวจ์สและฟลอรีนซ์เคนเนดีหญิงผิวดำสองผู้ที่สอนคุณเกี่ยวกับการพูดในที่สาธารณะรวมทั้งการเคลื่อนไหว
I Am Woman (2019) คุณสุภาพสตรียืนหนึ่งหัวใจแข็ง
เรื่องย่อ : หนังประเดิมด้วยเรดดี้อายุ 24 เดินทางมาถึงในนิวยอร์กในปี 1966 กับลูกสาวของเธอสามปี, กระเป๋าที่เอาไว้ใส่สิ่งของสำหรับเวลาออกเดินทางและเพียงแค่US $ 230 ข้างในห้าปีเธอแปลงเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยนั้นด้วยซิงเกิ้ลลำดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกาแปดรายการรายการทีวีประจำชั่วโมงของเธอเองและก็เป็นเครื่องหมายของวิธีการสตรีนิยมในปี 1970 ซึ่งนำเพลงสรรเสริญพระบารมีมาใช้ หนังดังของเธอสุขสบายกับความเกี่ยวข้องกับ Roxon ผู้เขียนที่มีผลกระทบลิเลียน Roxon ของร็อคสารานุกรม รวมทั้งสามี / ผู้จัดการ Wald ที่ยังมีการจัดการศิลปินยกตัวอย่างเช่นSylvester Stallone , ดอนที่นาซัมเมอร์ , สีม่วงเข้มรวมทั้งไทนี่ทิม
The Social Network (2010) เดอะ โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ก
เรื่องย่อ : ภายหลังจาก เลิกรากับแฟนสาว เอริก้า (รูนีย์ มาร่า) มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) นิสิตหนุ่มวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็สวมวิญญาณแฮคเกอร์ แฮคเข้าไปในทะเบียนเรื่องราวนักศึกษาเพื่อเอาข้อมูลแล้วก็รูปนิสิตในมหาวิทยาลัยมาสร้างเป็นหนังสือรุ่นออนไลน์ ในชื่อเว็บไซต์ Facemash และมีการโหวตว่าผู้ใดกันแน่ฮอตไม่ฮอตอีกด้วย โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เอดัวร์โด้ เซฟริน (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ร่วมจัดตั้งเฟซบุ๊ค แต่แล้ว 6 เดือนต่อมา
เขาก็ถูกมหาวิทยาลัยลงอาญาด้วยการหยุดยั้งใช้อินเทอร์เน็ต ด้วยเหตุว่าเข้าไปแฮคข้อมูลในระบบทะเบียนมหาวิทยาลัย ต่อจากนั้น เขาก็เกิดความคิดใหม่ เริ่มต้นคิดค้นและพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊คขึ้นมา โดยได้รับการช่วยเหลือจาก ดัสติน มาสโควิตช์ (โจเซฟ มาซเซลโล) รูมมันข้นของเขาซึ่งต่อมาแปลงเป็นผู้ร่วมจัดตั้งเฟซบุ๊คอีกคน พวกเขาได้ช่วยกันปรับปรุงเฟซบุ๊คเรื่อยๆมา กระทั่งมีความคิดเห็นว่ามันจะต้องฮอตมากมายๆแน่ๆมาร์คจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย ทิ้งใบปริญญาแล้วเดินหน้าพัฒนาเฟซบุ๊คอย่างเอาจริงเอาจัง กระทั่งในที่สุดมันก็ทำรายได้อย่างมากมายให้กับเขา และผลักให้เขาแปลงเป็นมหาเศรษฐีที่อายุต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
The Boys in the Band: Something Personal (2020)
เรื่องย่อ : ทศวรรษภายหลังที่บทละครของเขาทำให้เวทีชีวิตเกย์กลายเป็นใจกลาง มาร์ท คราวลีย์ร่วมแสดงในภาพยนตร์ปี 2020 เพื่อสะท้อนเรื่องราวที่สืบทอดมายาวนานทศวรรษหลังจากที่บทละครของเขาทำให้เวทีชีวิตเกย์เปลี่ยนเป็นใจกลาง มาร์ท คราวลีย์ร่วมแสดงในรูปภาพยนตร์ปี 2020 เรื่อง “The Boys in the Band” เพื่อสะท้อนเรื่องราวที่ตกทอดมายาวนาน สารคดี 30 นาทีที่ดูแลโดย โจเอล คาซึโอะ คนอร์นไชลด์บทละครที่สร้างแรงจูงใจให้กับภาพยนตร์ได้รับการฟื้นคืนชีพในการเกิดบรอดเวย์ที่ได้รับรางวัลโทนี่ซึ่งเป็นแรงดลใจให้กับภาพยนตร์สุดยอด สำรวจว่าเพราะเหตุใด The Boys in the Band ยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในขณะนี้ และมันมีผลกระทบไปหลายชั่วอายุคนในชุมชน LGBTQ+ มาร์ทให้เราเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเขา ซึ่งไม่เคยมีผู้ใดกันแน่ถูกยิงมาก่อน และก็แสดงให้เรามองเห็นโลกส่วนตัวของเขาในเอกสารสั้นๆ7 นาทีนี้
The Brawler (2019)
เรื่องย่อ : วันหนึ่งเขาได้รับข่าวว่าเขาจะต่อสู้ แชมป์นุอาลี ด้วยความให้การช่วยเหลือ จากผู้ฝึกสอนและก็ผู้จัดการ Al Braverman ชัคฝึกฝนเต็มเวลาสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง ก่อนจะมีการแถลงข่าว ระหว่างนักชกทั้งคู่อาลีขอให้ชัคงงงวยเพื่อด่าว่าเขาดูหมิ่นเหยียดหยามเชื้อชาติเพื่อสร้างสื่อถึงแม้ว่าชัคจะปฏิเสธในระหว่างการประชุมหากว่า Wepner จะสามารถทำคะแนนให้กับ Ali ได้
แม้กระนั้น เขาก็มีความสะดุดตาสำหรับในการต่อสู้ทำให้ล้มลงในรอบที่ 15 แต่ชัคกลายเป็นวีรบุรุษในท้องถิ่นโดยเขาได้รับโทรศัพท์ว่ามีการสร้างภาพยนตร์จากการต่อสู้กับอาลีและก็ได้รับรางวัลภาพเหมาะสมที่สุด ในเวลาถัดมา ชัคปลดปล่อย ให้เกียรติศักดิ์ดังไปทั่วและเริ่มปาร์ตี้อย่างเป็นระบบนอกใจภรรยาแล้วก็เสพโคเคน ในที่สุดไฟลิส ก็ศึกษาและทำการค้นพบและหลังจาก ทะเลาะกันอย่างเจ็บร้าว เขาก็ทิ้งเขาไปภายหลังจากเข้าร่วมการแข่งขันชิงชัยมวยปล้ำ / ชกมวยแบบผสมกับอังเดรเดอะไจแอนท์โชคไม่ดีของเขาเวปเนอร์ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อลินดาในบาร์
เขายังได้รับโอกาส จากซิลเวสเตอร์สตอลโลน ในการออดิชั่น สำหรับบทบาทใน Rocky II แม้ว่าหลังจาก การเผชิญหน้ากับโปรดิวเซอร์ แต่ส่วนของเขาก็ถูกเอาออกไป ถัดมาเขาก็หลงรักดอนนี่พี่ชายของเขาภายหลังจากเข้าร่วมการประลองโดยมิได้รับอนุญาตกับวิคเตอร์นักมวยปลุกปล้ำแบร์เขาถูกจับและขังในคดียาเสพติดที่ไม่เรียบร้อย ขณะที่เขาเขาได้พบกับสตอลโลนในคุกที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ที่จะเกิดขึ้นของเขา Lock Up สองปีถัดมา เขาได้รับการปล่อยตัวจากคุกแล้วก็สมรสกับลินดาในเวลาถัดมา
127 Hours (2010) : 127 ชั่วโมง
หนังเอาชีวิตรอดที่ดัดแปลง ปรับปรุงแก้ไข มาจากหนังสือ ที่อารอน ราลสตัน เขียนบันทึกขณะแห่งความเป็นความตายในช่วงเวลา 127 ชั่่วนาฬิกา ที่เขาจำต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะจำ ต้องเลือกที่จะจำต้องสละแขนด้านขวา เพื่อเอาชีวิตรอด หัวข้อนี้เจ้าตัว อารอน ราลสตัน ผู้แสดงนำของเรื่องสุดน่ากลัวนี้ มายืนจนถึงเองเลยว่า
เรื่องราว ในหนังถ่ายทอด เรื่องออกมาได้ใกล้เคียงสถานะการณ์จริง ที่เขาพบเจอมาอย่างยิ่ง มีบางจุดนิดๆหน่อยๆที่ไม่ใช่จุดสำคัญเพียงแค่นั้น ที่จะต่างออกไปจากความจริง เช่นฉากแรกในช่วงเวลา ที่อารอนได้เจอกับ 2 นักกีฬาปีนเขา อารอนได้สอนเทคนิคการไต่เขาให้กับ 2 คนนั้น แต่ในหนังนั้นอารอนพาพวกเขาไปดูทะเลสาบที่ซ่อนอยู่ในซอกเขา
The Pursuit of Happyness (2006) : ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
หนังดราม่าน้อยเรื่องที่ วิล สมิธ รับแสดง และก็เป็นหนังที่หลายคนหลงใหลแล้ว ก็อยู่ในหลายชื่อหนังโปรด ที่นอกจาก จะฉากเรียกน้ำตาเยอะมากแล้วยังเป็นหนังที่ให้กำลังใจผู้ชมได้อย่างดีอีกด้วย วิล สมิธ ฝากหน้าที่การแสดงที่คงจะเรียกได้ว่าเยี่ยมที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ทำให้เขาได้เข้าชิงออสการ์สาขาดารานำชายเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต
ต่อจาก Ali (2001) แล้วภายหลังจาก เรื่องนี้ เขาก็ยังมิได้รับ การเสนอชื่อเข้าชิงอีกเลย วิล สมิธ สวมบทเป็น คริส การ์ดเนอร์ นักธุรกิจค้าหุ้นที่ประสบความสำเร็จ ผู้ก้าวมาจากจุดที่ติดลบ เขาจำต้องเร่รอนแบบไม่มีที่ซุกหัวนอนกับลูกชายวัย 5 ขวบ ของเขา ที่ได้เจเด็น สมิธ มาร่วมแสดงกับบิดาได้อย่างน่ารักน่าชัง เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากของ แกเบรียล มุคสิโน ที่เอาบิดาลูกจริงๆมาแสดงด้วยกัน